ธุรกิจซื้อมาขายไป ผ่านทางออนไลน์ ต้องเสียภาษียังไง ?

ธุรกิจซื้อมาขายไป ผ่านทางออนไลน์ ต้องเสียภาษียังไง ?

คนที่เพิ่งทำธุรกิจซื้อมาขายไป หรือทำงานประจำควบคู่กับการขายของออนไลน์มักเจอปัญหาเรื่องการเสียภาษี ที่ไม่รู้ว่าตัวเองมีภาษีอะไรบ้างที่ต้องจ่าย และมีเอกสารอะไรที่ต้องเก็บบ้าง

ยิ่งการค้าขายยุคนี้ทำเรื่องซื้อขายกันผ่านสื่อออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น FB/IG/LINE หรือสื่อเจ้าอื่นๆ การส่งเอกสารทั้งใบเสนอราคา ใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษี ใบส่งสินค้า หลักฐานการโอนเงิน หรือใบเสร็จ ก็ทำกันช่องทางนี้ หากไม่พิมพ์เอกสารเหล่านี้ออกมาเก็บไว้ พอถึงสิ้นปีที่จะต้องเสียภาษี ก็ไม่มีข้อมูลที่จะมาใช้คำนวณ ทำให้เสียภาษีไม่ถูกต้อง (อาจจะสูงไปหรือต่ำไป) และเป็นเหตุให้ต้องโดนสอบภาษีย้อนหลังได้

1. เก็บเอกสารการทำธุรกิจไว้ เพื่อนำมาใช้คำนวณภาษี

FB/IG/LINE เว็บไซต์ธุรกิจที่ตั้งขึ้น รวมถึงเว็บ E-Commerce เปรียบได้กับหน้าบ้านที่ช่วยให้ค้าขายได้สะดวกสบายและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าหลากหลาย แต่ก็ไม่ควรลืมระบบหลังบ้านที่ทำหน้าที่จัดการเอกสารและหลักฐานการซื้อขาย เพื่อเอาไว้ใช้คำนวณภาษีและยื่นภาษีแก่กรมสรรพากรตามที่กำหนดด้วย ไม่ว่าผลการประกอบการจะเป็นเช่นไร จะกำไรหรือขาดทุน ก็ต้องยื่นแบบนำส่งกรมสรรพากร

2. ทำความเข้าใจว่าตัวเรามีรายได้ประเภทไหนบ้าง

รายได้ในแต่ละช่องทางที่ได้รับคือตัวบอกว่าจะต้องเสียภาษีอย่างไร หากมีรายได้จากแค่ เงินเดือน ค่าล่วงเวลา และโบนัส จะถือว่าเป็นเงินได้ประเภทที่ 1 และ 2 ต้องเสียภาษี ลงในฟอร์ม ภ.ง.ด. 91 แต่หากมีรายได้จากช่องทางอื่นๆ ก็จะเสียภาษีลงในฟอร์ม ภ.ง.ด.90

 

ซื้อมาขายไป เป็นรายได้ประเภทที่เท่าไหร่

รายได้ 8 ประเภท ที่ต้องเสียภาษี

 

สำหรับรายได้ที่มาจากการทำธุรกิจซื้อมาขายไป หรือขายของออนไลน์ จะถือเป็นรายได้ประเภทที่ 8 ก็จะต้องเสียภาษีบุคคลธรรมดาปีละ 2 ครั้ง โดยใช้ ภ.ง.ด.94 และ ภ.ง.ด.90

วิธีคำนวณ ภาษีเงินได้ของบุคคลธรรมดาส่วนรายได้จาก “ธุรกิจซื้อมาขายไป”

ในการคำนวนภาษีเงินได้ของบุคคลธรรมดาที่มีการทำธุรกิจซื้อมาขายไปนั้นจะต้องมีวิธีในการคำนวณภาษีอากรทั้งหมด 2 ขั้นตอน คือ

  1. คำนวณจากรายได้ที่เกิดขึ้น

(รายได้ – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน) = รายได้สุทธิ x อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องจ่าย

  1. คำนวณจากรายได้จาก ธุรกิจซื้อมาขายไป และทางอื่นๆ (ยกเว้นเงินเดือน) ถ้ามีจำนวนรวมกันตั้งแต่ 120,000 บาทขึ้นไป จะใช้วิธีการคำนวณได้ 2 แบบ คือแบบเหมา 0.5% และแบบหักตามค่าใช้จ่ายจริง (หากเป็นธุรกิจที่ผลิตเองขายเองจะใช้วิธีคำนวณแบบหักตามค่าใช้จ่ายจริงเท่านั้น)

รายได้ที่ไม่ใช่เงินเดือน x 0.005% = ค่าภาษี

หลังจากนั้นให้เทียบภาษีจากทั้ง 2 วิธี หากวิธีไหนคำนวณแล้วได้ว่าต้องเสียภาษีมากกว่า ให้เลือกเสียภาษีจากวิธีคำนวณนั้น

3. บัญชี ธุรกิจซื้อมาขายไป ต้องทำให้ได้

เมื่อเข้าสู่โลกของการทำธุรกิจ และมีรายได้แล้ว ก็มีหน้าที่ที่จะต้องเสียภาษี แต่จะเสียภาษีได้อย่างไร หากไม่รู้ว่าธุรกิจที่ตัวเองทำอยู่มีกำไรหรือขาดทุนเท่าไหร่ ดังนั้นถ้าอยากรู้ว่าสิ้นปีเราจะมีรายได้เท่าไหร่ ก็ต้องทำบัญชีรายรับรายจ่ายขึ้น

ในการดำเนินธุรกิจ จะมีคนที่เกี่ยวข้องในชีวิตเราอย่างน้อย 2 คนคือ นักบัญชี และผู้ตรวจสอบบัญชี ซึ่งคนที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจที่ยังไม่ได้จ้างนักบัญชีหรือสำนักบัญชี ก็ต้องมั่นใจว่าบัญชีที่เราทำนั้นถูกต้อง แต่สำหรับใครที่ยังไม่มั่นใจในบัญชีที่ทำอยู่ว่าถูกต้องหรือไม่ หรือไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ขอให้เริ่มจากสิ่งเหล่านี้ก่อน

  • ทำบัญชีรายรับรายจ่าย บันทึกต้นทุนและรายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ และบันทึกรายได้เมื่อมีการซื้อขายเกิดขึ้น
  • ทำสต็อกสินค้า เพื่อให้ทราบปริมาณความเคลื่อนไหวของสินค้าคงเหลือ ป้องกันสินค้าสูญหาย และยังช่วยในการประเมินว่าสินค้าตัวไหนเป็นที่ต้องการของตลาด หรือสินค้าตัวไหนควรลดสต็อก เพื่อให้ต้นทุนไม่จมอยู่กับสินค้ามากเกินไป นอกจากนี้ สต็อกสินค้ายังเป็นสิ่งแรกที่กรมสรรพากรมักจะตรวจสอบด้วย
  • แยกกระเป๋าเงินส่วนตัวและกระเป๋าธุรกิจ เพราะถ้าไม่แยก จะเกิดปัญหาว่าทำไมสินค้าขายได้ มีกำไรแล้ว แต่เงินหายไปไหนไม่รู้ แล้วผลที่ตามมาคือทำให้เกิดการขาดสภาพคล่อง
  • เก็บเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายให้ครบ คือหลักฐานทางการเงินที่แสดงให้เห็นว่ามีการซื้อขาย เช่น ใบเสนอราคา ใบวางบิล ใบแจ้งหนี้  ใบเสร็จ ใบกำกับภาษี เพื่อถึงเวลาสิ้นปีจะได้ใช้เป็นข้อมูลในการคำนวณภาษี

สามารถอ่าน  บทความเกี่ยวกับภาษี และ บทความน่าสนใจอื่นๆได้ ที่นี้

ที่มา : flowaccount.com

 3282
ผู้เข้าชม
ทำเว็บธุรกิจ ทําเว็บขายของ ออกแบบเว็บไซต์ เว็บไซต์สำเร็จรูป SoGoodWeb

HR Articles

ก่อนที่จะกล่าวถึงเรื่อง คุณสมบัติของผู้นำ มองย้อนยุคกลับไปสู่อดีต สิ่งแรกซึ่งเป็นสัจธรรมของชีวิตและสังคมที่ใคร่ขอนำมาย้ำความสำคัญไว้ ณ โอกาสนี้คือ หากไม่มีวันนั้นย่อมไม่มีวันนี้ การที่ชี้ให้หวนกลับไปมองสู่อดีต เพื่อประโยชน์ของคนในยุคปัจจุบัน ซึ่งพึงได้รับอย่างลึกซึ้ง น่าจะได้แก่ ผลจากการคิดได้ถึงสิ่งอันเป็นที่มา ย่อมทำให้เกิดการเจริญสติภายในรากฐานของแต่ละคน เพื่อให้ชีวิตอนาคตรู้ความจริงและใช้ เป็นพื้นฐานในการก้าวต่อไปได้มั่นคงยิ่งขึ้น ผู้ใหญ่ในอดีตเคยยืนยันสัจธรรมของการดำเนินชีวิต ฝากไว้ให้ลูกหลานรับไปพิจารณาว่า จะทำอะไรอยู่ที่ไหนก็แล้วแต่ ขอให้ทำหน้าที่ ณ จุดนั้นอย่างดีที่สุด อย่าได้ คิดโลภโมโทสัน ทำให้เกิดความทุกข์แก่ตนเอง และสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ที่อยู่ ร่วมกันในสังคม
2017 ผู้เข้าชม
ด้วยปัจจัยตั้งต้นก็มักจะคล้ายกันในหลายๆ กิจการ ที่ก่อเกิดโดยคนเพียง 1 หรือ 2-3 คนในการคิดทำสินค้า หรือบริการ นั้น ๆ ออกขาย จะเรียกว่าเกิดจากไอเดีย (idea) ช่องทาง (Chanel) หรืออื่นๆ แม้จะเป็นความสร้างสรรค์หรือไม่ก็ตาม แต่ก็ทำให้เกิดความคิด ที่รวมๆ แล้วเรียกได้ว่า ความคิดจากการมองเห็น โอกาส (Opportunity)
1480 ผู้เข้าชม
ช่วงปลายปี-ต้นปี เป็นโอกาสของผู้ประกันตนคนทำงานแจ้ง เปลี่ยนหรือย้ายสถานพยาบาลใหม่ให้ถูกใจใกล้บ้าน ซึ่งสามารถเปลี่ยนได้ปีละ 1 ครั้งเท่านั้น วิธีการยื่นแบบแจ้งเปลี่ยนสถานพยาบาลทำได้ง่ายๆ คือ
7197 ผู้เข้าชม
แม้ว่าการคัดเลือกพนักงานเข้าทำงานนั้น จะมี AI เข้ามาช่วยมากขึ้นในการ screen และ การ Matching คุณสมบัติของผู้สมัคร อีกทั้งยังมี chatbot ที่เข้ามาช่วยในการพูดคุยสัมภาษณ์เบื้องต้นได้ แต่สุดท้าย เราก็ยังคงต้องมีการสัมภาษณ์แบบที่เป็นมนุษย์คุยกันอยู่
1227 ผู้เข้าชม
Get started for free today. DEMO FREE 60 DAYS
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์