เคล็ดลับสำหรับการพิชิตงานใหม่ของคุณ

เคล็ดลับสำหรับการพิชิตงานใหม่ของคุณ



เศรษฐกิจขาลงอย่างนี้ ตัวเลขคนว่างงานพุ่งสูงขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน ความยากในการหางานใหม่ก็ทวีขึ้นเป็นเงาตามตัว เราเลยรีบหยิบเทคนิคหางานให้รุ่งมาฝากกันโดยพลัน

หาตัวช่วย

     หน้าคลาสสิฟายด์ในหนังสือพิมพ์หลายฉบับล้วนเป็นเป้าหมายของคนหางานทั้งสิ้น ฉะนั้นการมองหาตัวช่วยอื่น เช่น การขอข้อมูลตำแหน่งว่างจากเพื่อนที่เป็นคนวงในบริษัทที่คุณหมายปอง จะช่วยเพิ่มเปอร์เซ็นต์เข้าถึงงานได้ดีกว่าการหว่านสมัครไปทั่วราชอาณาจักร

     แต่ถ้าเพื่อนเก่าก็ไม่ค่อยมี ก็ต้องหัดใช้ประโยชน์จากงานสังคม เช่น ปาร์ตี้วันเกิดเพื่อน งานเลี้ยงส่งเพื่อนร่วมงาน งานแต่งงานเพื่อน ฯลฯ เพื่อสร้างคอนเน็กชั่นกับคนใหม่ๆ เอาไว้บ้าง เผื่อวันหน้าวันหลังจะได้เป็นช่องทางดีๆ ในการหางานใหม่ไงล่ะ

อย่ายึดติด

     สมมติว่างานที่คุณทำอยู่ตอน นี้คือหัวหน้าฝ่ายการตลาด แล้วอยากเปลี่ยนงานใหม่ แต่บังเอิญไม่มีบริษัทไหนเปิดรับตำแหน่งนี้เลย ก็ควรลองมองหางานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องไปพลางๆ เช่น ไปสมัครเป็นอาจารย์สอนวิชาด้านการตลาด หรือหากใครที่เป็นพนักงานธนาคารก็อาจหางานที่เกี่ยวกับการให้คำปรึกษาด้านการลงทุน เป็นต้น

เบนเข็มไปเลย

     ถ้าคุณพร้อมจะเปลี่ยนแปลง คิดว่าตัวเองมีศักยภาพในการเรียนรู้สิ่งใหม่และมุ่งมั่นจะทำสิ่งนั้นให้ดีขึ้นได้ ควรเทคคอร์สอบรมเพื่อเพิ่มความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพใหม่ โดยเฉพาะงานที่ส่อแววว่าจะเติบโตขึ้นชนิดสวนกระแสเศรษฐกิจตกต่ำ เช่น งานเกี่ยวข้องกับด้านสิ่งแวดล้อม ก็น่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ 

ยินดีรับงานใหม่

     ไหนๆ ก็ไปสมัครและสัมภาษณ์ตำแหน่งงานที่แม้ไม่โดนใจคุณมากนัก อาจเพราะเป็นงานชั่วคราวที่ต้องต่อสัญญาระยะสั้น 3 เดือน 6 เดือน ซึ่งนายจ้างจะคอยติดตามผลงานของคุณเป็นระยะๆ หรือด้วยเหตุผลใดก็ตาม นาทีนี้ได้งานอะไรก็ต้องคว้าเอาไว้ก่อน เพราะอย่างน้อยจะได้นำเงินเดือนมาซัพพอร์ตค่าครองชีพ แต่ในระหว่างทำงานก็ควรเต็มที่กับงานนั้นๆ และต้องไม่ปล่อยให้เวลาของการหางานใหม่ผ่านไปอย่างไร้ค่าเช่นกัน

สามารถอ่านบทความน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ ที่นี้


ที่มา : www.jobdst.com

 808
ผู้เข้าชม
ทำเว็บธุรกิจ ทําเว็บขายของ ออกแบบเว็บไซต์ เว็บไซต์สำเร็จรูป SoGoodWeb

HR Articles

แถมไปว่าฝ่ายบุคคลที่แนะนำผู้บริหารว่าไม่ควรไปเลื่อนตำแหน่งให้ก็เป็น HR ที่ใจร้ายไม่ต่างกันแหละ ความคิดแบบนี้เข้าใจได้ครับว่าเป็นความคิดในมุมมองของพนักงาน โดยเฉพาะคนที่ทำงานมานาน แต่ลองมองอีกมุมหนึ่งว่าถ้าเราเป็นเจ้าของเป็นฝ่ายบริหารหรือเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่จะต้องรับผิดชอบภาพรวมดูแลผู้คนทั้งหมดล่ะเราจะทำยังไง ?
1339 ผู้เข้าชม
หลาย ๆ คนคงทราบดีอยู่แล้วว่า สวัสดิการพนักงาน นั้น แม้จะเป็นสิ่งที่ทางบริษัท หรือนายจ้างมอบให้แก่พนักงานหรือลูกจ้างทุก ๆ คน เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานของลูกจ้างและเพื่อให้ลูกจ้างมีสภาพความเป็นอยู่ในการทำงานที่ดีขึ้นก็ตาม แต่สิ่งที่ได้รับมาเหล่านั้นก็ต้องถูกนำไปคิดคำนวณเป็นเงินได้พึงประเมินของเราในการชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในรอบปีบัญชีนั้น ๆ เว้นแต่สวัสดิการต่าง ๆ ที่เราได้รับ จะถูกจัดอยู่ในข้อบัญญัติตามกฎหมายให้มีการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ แต่จะมีสวัสดิการตัวใดกันที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องมาคำนวณภาษี ค่าคลอดบุตรถือเป็นรายได้เพื่อเสียภาษีหรือไม่ ค่าเบี้ยเลี้ยงทางภาษี ถือเป็นสวัสดิการที่ได้รับการยกเว้นหรือเปล่า และค่าเดินทางเหมาจ่ายต้องเสียภาษีหรือไม่ วันนี้เรามีคำตอบค่ะ
23125 ผู้เข้าชม
หลาย ๆ ท่านคงคุ้นเคยกับแนวคิดการบริหารคนจากต่าง Gen กัน วันนี้เราจะสรุปไว้เป็น 4 Gen และจะดูไปด้วยกันว่าในแต่ ละวัฒนธรรม (ไทยญี่ปุ่น จีน อเมริกัน) นั้นมีลักษณะแต่ละ Gen เหมือนหรือต่างกันอย่างไรด้วยครับ โดยการแบ่ง Gen ไมได้ หมายความว่ามี เส้นแบ่งโดย เด็ดขาด ว่า Gen ไหนก็จะต้องเป็นแบบนั้น แต่เป็นการบอกแนวโน้ม บอกความน่าจะเป็น ของกลุ่มคนโดยส่วนใหญ่ใน Gen นั้นเท่านั้น การแบ่ง นั้น บางตําราแบ่งเป็น 8 Gen คือ ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง มี 3 Gen และหลังสงครามโลกครั้งที่สอง มี 5 Gen รวมกันเป็น 8 Gen แต่บางตำราแบ่งเป็น 5 Gen คือเหมารวมพวกก่อนสงครามโลกครั้งที่สองเป็น 1 Gen และ พวกหลังสงครามโลกครั้งที่สองเป็น 4 Gen
3366 ผู้เข้าชม
เอสซีจี ให้ความสำคัญกับพนักงานเป็นอย่างมาก เนื่องจากตระหนักอยู่เสมอว่าพนักงานเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดขององค์กร โดยการพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารทรัพยากรบุคคลของบริษัทปูนซีเมนต์ไทย เริ่มตั้งแต่การสรรหาผู้ที่เป็นคนเก่งและดีเข้ามาร่วมงาน โดยจัดโครงการ “Drawing Your Career with SCG Career Camp” เพื่อจูงใจผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จากสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำของประเทศไทยให้มาทำงานกับบริษัท ซึ่งถือว่าเป็นการสรรหาบุคลากรในเชิงรุก นอกจากนี้ยังมีโครงการ “Top Ten University Recruitment” เพื่อสรรหาผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท ด้านบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยท็อป 10 ในสหรัฐอเมริกาหรือมหาวิทยาลัยชั้นนำในยุโรปอีกด้วย การพัฒนาบุคลากรของเอสซีจีจะดำเนินการโดยการให้ทุนการศึกษาและการอบรม โดยการอบรมนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ Business Knowledge และ Leadership Skills ซึ่งทางเอสซีจีได้จัดสรรงบประมาณสำหรับการฝึกอบรมคิดเป็นร้อยละ 0.19 ของรายได้ของบริษัทในปี 2550 สำหรับผู้ที่ผ่านหลักสูตรทั้งหมดแล้วและได้ขึ้นเป็นผู้บริหาร ทางเอสซีจีได้จัดหลักสูตรอบรมเพิ่มเติมได้แก่ Advance Management Program (AMP) และ Executive Development Program (EDP) โดยหลักสูตรแรกเอสซีจีร่วมมือกับ ฮาวาร์ด บิสสิเนสท สคูล และวาร์ตัน บิสสิเนส สคูล ส่วนหลักสูตร EDP ร่วมมือกับ โคลัมเบีย บิสสิเนส สคูล ซึ่งค่าใช้จ่ายสำหรับฝึกอบรมผู้บริหารนี้จะแยกอิสระออกจากงบพัฒนาบุคคลหลัก
27251 ผู้เข้าชม
Get started for free today. DEMO FREE 60 DAYS
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์