10 ค่าใช้จ่ายและประกันลดหย่อนภาษี

10 ค่าใช้จ่ายและประกันลดหย่อนภาษี

ค่าใช้จ่ายที่นำมาลดหย่อนภาษีได้

1. ดอกเบี้ยเงินกู้ ลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนจ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท

ภาระการผ่อนบ้านหรือคอนโดในแต่ละเดือนทำให้ใครหลายคนปวดหัวอย่างหนักหน่วงกันอยู่ไม่น้อย แต่บอกได้เลยว่าปลายปีมีเฮแน่นอน เพราะเราสามารถนำภาระหนี้ตรงนี้มาลดหย่อนภาษีได้

2. กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)

ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15% ของรายได้ต่อปี แต่ไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี

3. เงินสมทบ กบข. และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 500,000 บาท

สำหรับใครที่ทำงานในบริษัทเอกชนจะมีเงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ถูกหักไปในแต่ละเดือน ซึ่งมีเรตคร่าวๆ อยู่ที่ 3%, 5% หรือ 10% ของเงินเดือน (รายละเอียดการหักของแต่ละบริษัทอาจแตกต่างกันไป) ไม่ว่าจะถูกหักไปเท่าไรก็นำมาลดหย่อนภาษีได้

4. เงินบริจาค ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินคงเหลือหลังจากหักค่าใช้จ่าย

5. คู่สมรส ลดหย่อนภาษีได้ 30,000 บาท

กรณีนี้ต้องมีการจดทะเบียนสมรส และถ้าหากคู่สมรสของเราไม่มีเงินได้ หรือเลือกยื่นแบบแสดงรายการลดหย่อนภาษีร่วมกัน เราจะได้สิทธิ์ในการลดหย่อนเพิ่มอีก 30,000 บาท

6. เลี้ยงดูบุตร และการศึกษาบุตร ลดหย่อนภาษีได้คนละ 15,000 บาท แต่ไม่เกิน 3 คน (สูงสุด 45,000 บาท)

ค่าลดหย่อนจากการเลี้ยงดูบุตร สามารถทำได้ทั้งบุตรตามกฎหมาย และบุตรบุญธรรม โดยบุตรจะต้องมีอายุไม่เกิน 20 ปี สามารถหักลดหย่อนได้คนละ 15,000 บาท แต่ไม่เกิน 3 คน สูงสุดไม่เกิน 45,000 บาท แต่ถ้าหากเกิน 20 ปี จะต้องศึกษาในระดับ ปวส. ขึ้นไปเท่านั้น และหากบุตรศึกษาต่อในประเทศตั้งแต่อนุบาลไปจนถึงปริญญาเอกก็จะได้ลดหย่อนภาษีเพิ่มอีกคนละ 2,000 บาท ประกันสุขภาพ ลดหย่อนภาษี เบี้ยเริ่มต้นเพียงวันละ 15 บาท

7. เลี้ยงดูบิดามารดา ลดหย่อนภาษีได้คนละ 30,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 120,000 บาท

ค่าเลี้ยงดูบิดามารดาสามารถนำไปลดหย่อนได้คนละ 30,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 120,000 บาท แต่มีเงื่อนไขว่าบิดาหรือมารดาที่นำไปขอลดหย่อนต้องออกหนังสือรับรองว่าลูกคนไหนที่เป็นคนเลี้ยงดูเสียก่อน

เบี้ยประกันสุขภาพ ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15,000 บาท

เรื่องของสุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะเราไม่สามารถทราบได้ล่วงหน้าถึงเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ทั้งปัญหาสุขภาพ การเจ็บไข้ได้ป่วย รวมไปถึงอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา การทำประกันภัยสุขภาพจึงเป็นตัวช่วยที่ดีในการลดภาระและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ เช่น ประกันลดหย่อนภาษี

8. ประกันสังคม ลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนจ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 9,000 บาท

ประกันนี้มนุษย์เงินเดือนทุกคนต้องได้ทำกันอยู่แล้ว แต่หลายคนลืมไปว่าสามารถนำมาใช้ในการลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 9,000 บาทต่อปีเลยทีเดียว ซึ่งข้อดีของการประกันสังคมที่เห็นได้ชัดและแตกต่างจากประกันอื่นๆ คือ ช่วยเหลือเราได้ดีตอนว่างงาน

9. เบี้ยประกันชีวิต ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท

เบี้ยประกันชีวิตลดหย่อนภาษีได้ 2 ประเภท นั่นก็คือ ประกันชีวิตทั่วไป ในกรณีที่คู่สมรสไม่มีรายได้ จะหักเบี้ยประกันได้สูงสุด 10,000 บาท แต่ถ้าคู่สมรสมีรายได้ สามารถหักสูงสุดได้ถึง 100,000 บาท แต่ถ้าเป็นประกันชีวิตบำนาญ ลดหย่อนได้ 15% ของเงินได้ สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท หากใครสับสนควรจะสอบถามจากตัวแทนประกันภัยเพื่อความถูกต้องให้ชันเจน

10. เบี้ยประกันสุขภาพ ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15,000 บาท

เรื่องของสุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะเราไม่สามารถทราบได้ล่วงหน้าถึงเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันทั้งปัญหาสุขภาพ การเจ็บไข้ได้ป่วย รวมไปถึงอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา การทำประกันภัยสุขภาพจึงเป็นตัวช่วยที่ดีในการลดภาระและความเสี่ยงในเรื่องต่างๆ เช่น

  • ค่ารักษาพยาบาลที่มีแนวโน้มว่าจะแพงขึ้นเรื่อยๆ ในทุกปี
    อย่างที่รู้ๆ กันว่าโรคภัยไข้เจ็บสมัยนี้พัฒนาความเสี่ยงขึ้นไปมาก ค่ารักษาพยาบาลจึงพุ่งสูงมากตามเป็นธรรมดา การรักษาในบางโรค เช่น โรคมะเร็งอาจจะต้องเสียเงินเป็นล้าน ซึ่งข้อดีของการทำประกันสุขภาพ คือ ช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลแทน ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลถึงค่ารักษาพยาบาลที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอีกต่อไป
  • ลดภาระค่าใช้จ่ายของตัวเราและครอบครัว
    ยามที่เจ็บป่วยและต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ภาระค่าใช้จ่ายอาจจะเป็นภาระใหญ่ที่ทำให้คุณและคนในครอบครัวต้องเป็นกังวลแต่เมื่อมีประกันสุขภาพจะทำให้มั่นใจได้ว่าบริษัทฯ จะช่วยดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาลแทน
  • ป้องกันการเจ็บป่วยเพียงเล็กน้อยที่อาจนำไปสู่โรคร้าย
    คนส่วนใหญ่ที่ไม่มีประกันสุขภาพ เมื่อป่วยมักเลี่ยงที่จะไปหาหมอ และหายามาทานเอง ซึ่งการรักษาไม่ถูกวิธีอาจทำให้อาการเจ็บป่วยเพียงเล็กน้อยสะสมจนกลายเป็นโรคร้ายแรงได้


เป็นอย่างไรบ้างมนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย ตอนนี้รู้แล้วใช่มั้ยว่า “กลยุทธ์ในการลดหย่อนภาษี” มีอะไรกันบ้าง เช็คดูว่าคุณมีสิทธิ์ลดหย่อนอะไร และซื้อประกันลดหย่อนภาษี ไม่ว่าจะเป็น ประกันชีวิต หรือประกันสุขภาพ ที่ไม่ได้มีดีแค่ช่วยเราลดหย่อนภาษีเท่านั้น แต่คุ้มครองทั้งชีวิตและความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
สำหรับใครที่มองหาประกันสุดคุ้ม อย่าง การทำประกันสุขภาพอยู่ละก็ ตอนนี้ประกันสุขภาพมิติใหม่จากซิกน่ามีแพ็คเกจคุ้มครองดูแลโรคมะเร็ง (ทุกระยะ) เนื้องอก และซีสต์ โดยจุดเด่นของประกันนี้ นั่นก็คือ การคุ้มครองทั้งโรคร้ายแรงและโรคอื่นๆ โดยเฉพาะโรคที่คนไทยส่วนใหญ่มีความเสี่ยง จึงไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินความจำเป็น พร้อมทั้งยังดูแลคุณอย่างอุ่นใจ ตั้งแต่

  • ก่อนป่วย - ดูแลตั้งแต่ก่อนป่วยด้วย Health line ที่ให้คำปรึกษาเรื่องสุขภาพ
  • เมื่อพบโรค - มอบเงินก้อนดำรงชีพ เมื่อพบโรคร้ายแรง
  • ระหว่างการรักษาจนหายป่วย - จ่ายค่ารักษาตามจริง อย่างที่ไม่เคยมีแผนใดให้คุณได้

ในส่วนของความคุ้มครองของกลุ่มโรคร้ายแรงและมะเร็งระยะลุกลาม เงินชดเชยแบบเหมาจ่าย (ครั้งเดียว) สูงสุด 500,000 บาท และค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก (ตลอดระยะเวลาที่ถือกรมธรรม์)สูงสุด 2,500,000 บาท โรคมะเร็งระยะไม่ลุกลาม, เนื้องอก, ซีสต์ ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก (ตลอดระยะเวลาที่ถือกรมธรรม์) 300,000 บาท เพียงจ่ายค่าเบี้ยเริ่มต้นเดือนละ 281 บาท

สำหรับความคุ้มครองกลุ่มโรคทั่วไป (ออฟฟิศซินโดรม และกลุ่มโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน และทางเดินอาหาร)ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก (ตลอดระยะเวลาที่ถือกรมธรรม์)สูงสุด 300,000 บาท เพียงจ่ายค่าเบี้ยเริ่มต้นเดือนละ 452 บาท

ที่สำคัญแผนประกันสุขภาพนี้ยังเป็นประกันลดหย่อนภาษีที่ลดหย่อนได้สูงสุด 15,000 บาท แถมข้อดีคือ ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินความจำเป็น เหมาะกับมนุษย์เงินเดือนสุดๆ

เห็นไหมว่าในชีวิตประจำวันของมนุษย์เงินเดือนที่มีรายจ่ายมากมายก็สามารถนำมาลดหย่อนภาษีกันได้ถ้าหากเราบริหารจัดการอย่างเป็นระบบและเข้าใจก็จะทำให้ประหยัดไปหลายบาทเลยทีเดียว และที่สำคัญการวางแผนประกันลดหย่อนภาษีก็เป็นอีกเรื่องที่มนุษย์เงินเดือนควรวางแผนให้ดีเช่นกัน

สามารถอ่าน  บทความเกี่ยวกับภาษี และ บทความน่าสนใจอื่นๆได้ ที่นี้

ที่มา : www.cigna.co.th

 1576
ผู้เข้าชม
ทำเว็บธุรกิจ ทําเว็บขายของ ออกแบบเว็บไซต์ เว็บไซต์สำเร็จรูป SoGoodWeb

HR Articles

งาน HR ในปัจจุบัน มีความสำคัญต่อองค์กรมากขึ้นกว่าในอดีต เพราะปัจจุบันทรัพยากรบุคคลถือเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดขององค์กร HR จึงเปรียบเสมือนหุ้นส่วนทางธุรกิจ ซึ่งไม่ได้มีบทบาทเพียงแค่ คัดคนเข้า เอาคนออก ตรวจบัตรตอก ออกใบเตือน อย่างที่คนภายนอกเข้าใจอีกต่อไป
6029 ผู้เข้าชม
วันนี้คุณในฐานะผู้บริหาร ผู้จัดการ หัวหน้างาน ซึ่งมีทีมงานอยู่ภายในการปกครองจำนวนหนึ่ง คุณเคยวิเคราะห์ผู้ใต้บังคับบัญชาในแต่ละคนหรือไม่ ว่าแต่ละคนนั้นอยู่ในช่องไหนของตาราง ถ้าคุณสามารถจัดได้ตามช่องอย่างชัดเจนแล้วการพัฒนาเขาเหล่านี้ก็ต้องใช้วิธีที่แตกต่างกัน
1783 ผู้เข้าชม
Assessment Center หรือที่เรียกกันว่า ศูนย์การประเมินผล เป็นเทคนิคและวิธีการที่ใช้ในการประเมินศักยภาพและพฤติกรรมของบุคลากรในองค์กรเพื่อที่จะก้าวเข้าสู่สายงานในระดับบริหาร ด้วยวิธีการประเมิน การวัดและวิเคราะห์ผลในเรื่องทักษะ ความรู้ ความสามารถ และศักยภาพของบุคลากรในองค์กร โดยจะมุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์หาพฤติกรรมด้านการบริหารจัดการ เช่น วิสัยทัศน์ การวางแผนงาน การแก้ไขปัญหาตัดสินใจ ความคิดเชิงกลยุทธ์ วัตถุประสงค์เพื่อที่จะคัดสรรผู้ที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมตรงกับความต้องการในแต่ละตำแหน่งงานอย่างแท้จริงและสอดคล้องกับทิศทางขององค์กรนั้นๆ ยิ่งในบางตำแหน่งงานซึ่งมีความสำคัญอย่างมากกับองค์กร อาทิเช่น CEO หรือในระดับ Top management องค์กรต้องมีวิธีการสรรหาและคัดสรรที่เหมาะสมที่สุดเพื่อที่จะนำพาองค์กรให้พัฒนาไปอย่างมีประสิทธิภาพ
2495 ผู้เข้าชม
สิทธิและหน้าที่ของผู้เสียภาษี สำหรับผู้เสียภาษีทุกท่านการรู้สิทธิ์และหน้าที่ของตัวเองในเรื่องของภาษีเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้เราทราบถึงสิทธิ์ต่างๆ ด้านภาษีและหน้าที่ของเราที่ต้องปฎิบัติให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายด้านภาษี เพื่อดำเนินการได้อย่างถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อตัวเราเอง
2704 ผู้เข้าชม
Get started for free today. DEMO FREE 60 DAYS
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์