HR NOTE OF THE DAY: จงปล่อยให้คนของคุณทำผิดพลาด

HR NOTE OF THE DAY: จงปล่อยให้คนของคุณทำผิดพลาด

1. มีด้วยหรือกับองค์กรที่อยากให้คนทำงานผิดพลาด


2. เราต้องย้อนไปดูก่อนว่าระบบบริหารงานที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันมันมีวิวัฒนาการมาอย่างไร


3.
ในตอนเริ่มต้นศาสตร์ในการบริหารธุรกิจเกิดขึ้นพร้อมๆ กับการปฎิวัติอุตสาหกรรม นั่นคือจุดเริ่มต้นของสายงานการผลิตที่มีคนตัวเล็กๆ เป็นฟันเฟืองของเครื่องจักร


4.
ความผิดพลาด ความล้าช้า ความไร้ประสิทธิภาพเป็นสิ่งที่ ‘ผู้จัดการ’ ในยุคสมัยนั้นอยากหลีกหนีให้ห่างไกล เพราะมันหมายถึงต้นทุนที่สูงขึ้นและผลกำไรที่ลดลง


5.
ความผิดพลาดกลายเป็น ‘หลุมดำ’ ที่พร้อมดูดกลืนแรงกาย แรงเงิน แรงเวลา ให้หายไปอย่างน่าใจหาย


6.
มรดกตกทอด ‘วิธีคิด’ แบบเกลียดกลัวความผิดพลาดจึงฝังรากลึกเข้าสู่ศาสตร์การจัดการเรื่อยมา สะท้อนผ่านการทำงานแบบตอกบัตร และทีมงานที่ต้องปฎิบัติตามงานที่ระบุไว้ใน Job description ระบบโครงสร้างองค์กรเป็นแบบระดับชั้น


7.
โลกเปลี่ยนไปมากมายในปัจจุบัน เทคโนโลยีช่วยให้งานหลายๆ อย่างที่เคยใช้เวลานานในการบรรลุสามารถกลายเป็นของที่ทำได้โดยง่าย เทคโนโลยีปลดปล่อยการทำงานของมนุษย์จากสิ่งที่ซ้ำซากสู่สิ่งที่สร้างสรรค์มากขึ้นเรื่อยๆ


8.
ใช่, ยังมีงานอีกมากที่สุดแสนจำเจและจำเป็นต้องปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อบรรลุผล เพราะการแหวกแนวสร้างสรรค์อาจหมายถึงความเสี่ยงที่ไม่อาจยอมรับได้


9.
มีการทำนายว่าอนาคตอันใกล้ในไม่อีกกี่ปีข้างหน้านี้จะเกิด AI Disruption ซึ่งจะเป็นเทรนด์ทั่วโลก โดยกลุ่มของงานที่มีโอกาสถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติมากที่สุดคืองานรูทีน งานใช้แรง เพราะเป็นกลุ่มงานที่เทคโนโลยี Machine learning ประกอบกับเทคโนโลยี AI สามารถที่จะลอกเลียนแบบการทำงานของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี

ตัวอย่างกรณีที่เกิดขึ้นแล้วในหลายอุตสาหกรรม เช่น รถยนต์ไร้คนขับ ซอฟแวร์ที่สามารถวิเคราะห์ตีความบทกฎหมาย AI ที่สามารถวิเคราะห์แผ่น X-ray เพื่อวิเคราะห์หาความผิดปกติของเนื้อเยื่อ จะเกิดอะไรขึ้นกับคนขับรถ นักกฎหมาย และแพทย์เฉพาะทางเหล่านี้


10.
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าวัฒนธรรมองค์กรยังเต็มไปด้วยกฎระเบียบยิบย่อย ให้รางวัลเฉพาะคนที่ปฏิบัติตามแผนงานอย่างเคร่งครัด และลงโทษ (หรือตัดรางวัล)กับคนที่ทำงานผิดพลาด


11.
ในโลกยุคใหม่องค์กรกำลังต้องการคนที่คิดนอกกรอบเพื่อหาแนวทางใหม่ๆ ในการทำงานเพื่อแสวงหาโอกาสทางธุรกิจที่มาจากเทคโนโลยีที่กำลังเกิดขึ้น ฟากฝั่งเทคโนโลยีก็กำลังค่อยๆทำลายงานที่มีลักษณะเป็นแบบแผน และให้คุณค่ากับงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ที่เครื่องจักรยังไม่ส่ามารถลอกเลียนแบบได้


12.
ตัดภาพมาดูที่รายงานการศึกษาค่าตอบแทนในการทำงานก็ยิ่งชัดเจน คือ คนเงินเดือนระดับแสนขึ้นไป ล้วนแต่ทำงานประเภทใช้ความคิดสร้างสรรค์แทบทั้งสิ้น (95%) เมื่อเทียบกับคนอายุใกล้เคียงกัน


13.
ข้อมูลทั้งหมดนี้กำลังบอกอะไรกับเราในฐานะคนที่ทำงานในวงการทรัพยากรบุคคล และเราสามารถนำความตระหนักรู้ข้อนี้ไปช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันขององค์กรให้มากขึ้นได้อย่างไร


14.
Ray Dalio Ray Dalio ผู้บริหารเฮดจ์ฟันด์ใหญ่สุดในโลกชวนเราคิดในประเด็นเหล่านี้ไว้หนังสือ Principles ว่าสิ่งที่แยกระหว่างคนที่ประสบความสำเร็จกับคนล้มเหลว – องค์กรที่สร้างนวัตกรรมครั้งแล้วครั้งเล่ากับองค์กรที่ทำได้แค่ลอกเลียนแบบและเป็นได้แค่ผู้ตามในอุุตสาหกรรม….ก็คือ ‘ทัศนคติที่เรามีต่อความผิดพลาด’


15.
สำหรับตัวบุคคลที่เกลียดกลัวความผิดพลาดก็จะนำไปสู่การหยุดการเรียนและปิดตัวเองสู่โอกาสใหม่ๆ ในชีวิต แต่สำหรับองค์กรคุณ Ray Dalio ได้บอกไว้ว่าถ้าเราสามารถที่จะสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงาน (วัฒนธรรมองค์กร) ให้ผู้คนรู้สึกปลอดภัยที่จะทำผิดทำพลาดได้ แต่ต้องเป็นการผิดพลาดที่เราสามารถเรียนรู้จากมันได้ ก็จะทำให้องค์กรสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว มีความสามารถในการยืดหยุ่นและปรับตัวต่อความเปลี่ยนแปลง เราจึงควรหันกลับมาทบทวน Mindset ที่มีต่อความผิดพลาดกันใหม่โดยเฉพาะองค์กรที่ต้องพึ่งพาเรื่องของความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมใหม่ๆ


16.
อาจถึงเวลาแล้วที่องค์กรจะกลับมาทบทวนแนวคิดเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลกันใหม่ เพราะจากนี้ไปสินทรัพย์ที่มีคุณค่าสูงที่สุดขององค์กรอาจไม่ใช่เครื่อจักร สินค้า หรือที่ดิน เพราะในโลกที่วงจรธุรกิจสั้นลง เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไป ทรัพยากรมนุษย์ หรือมันสมองของบริษัทนี้เองที่จะเป็น Key Success ของธุรกิจในวันข้างหน้า


ไม่แน่ว่าอันที่จริงแล้วคนเก่งๆ ไอเดียดีๆ วิถีทางใหม่ๆ ได้ฝังตัวอยู่ภายในองค์กรของคุณอยู่แล้ว แต่เป็นวิถีปฏิบัติเก่าๆ ในสมัยที่ธุรกิจยังมองมนุษย์เป็นเครื่องจักรที่ทำให้ศักยภาพเหล่านั้นไม่ได้เฉิดฉาย


17.
พวกเราในฐานะของ HR สามารถที่จะเริ่มตั้งคำถามกับระบบระเบียบเก่าๆ บางแบบที่อาจล้าสมัยไปแล้ว พยายามเปิดพื้นที่ให้พนักงานได้ทดลอง สร้างบางโปรเจกที่อนุญาตให้ล้มเหลวได้โดยไม่ส่งผลกระทบมากเกินไป ปรับระบบการประเมินผลงานเพื่อสนับสนุนให้พนักงานได้คิดริเริ่ม จัดกิจกรรมในองค์กรให้เกิดการแชร์ไอเดีย อย่าให้โครงสร้างองค์กรแบบเป็นลำดับชั้นมาขัดขวางการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ไอเดียที่ดีที่สุดต้องสามารถมาจากทุกคนนองค์กรโดยไม่เกี่ยวกับความใหญ่โตในบริษัท มีการอบรมคนในระดับผู้จัดการเพื่อสร้างทีมงานที่รู้สึกปลอดภัยกล้าทดลอง ไม่กลัวความล้มเหล็ว


สิ่งเหล่านี้เป็นแนวทางที่แต่ละองค์กรสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เข้ากับบริบทของตัวเอง แต่อย่างแรกที่ต้องทำคือการเริ่มจากทัศนคติที่ว่า “เป็นเรื่องโอเครที่จะสร้างความผิดพลาด แต่ต้องเป็นการผิดพลาดที่สามารถนำมาเรียนรู้ต่อได้”

HR NOTEคือมีเดียสำหรับ HR ที่เชื่อในการพัฒนาตัวเองเพื่อพัฒนาโลก เรานำเสนอ Content คุณภาพที่เกี่ยวกับเทรนด์การบริหารงานบุคคล เทคโนโลยีในแวดวง HR และกรณีศึกษาเจ๋งๆ จากองค์กรที่น่าสนใจ และในปี 2020 เรายังเพิ่มในส่วนมุมมองจาก HR People ระดับโลกทั้งในและต่างประเทศ เพื่อช่วยให้ HR มืออาชีพนำไปต่อยอดสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาประสบการณ์สำหรับพนักงานในองค์กรก่อกำเนิดเป็นการงานที่มีคุณค่า มีความหมาย และงดงาม

สามารถอ่าน บทความเกี่ยวกับHR และ บทความน่าสนใจอื่นๆได้ ที่นี้

ที่มา : th.hrnote.asia

 1690
ผู้เข้าชม
ทำเว็บธุรกิจ ทําเว็บขายของ ออกแบบเว็บไซต์ เว็บไซต์สำเร็จรูป SoGoodWeb

HR Articles

ความก้าวหน้าในอาชีพของ HR นั้น นอกจากในเรื่องค่าตอบแทนที่สูงขึ้นแล้ว การก้าวสู่ตำแหน่งบริหารก็เป็นสิ่งที่ HR ปรารถนา แต่การจะได้เป็นผู้บริหารด้าน HR นั้นไม่ง่าย เพราะคนที่จะทำงานในระดับนี้ องค์กรต้องคัดเฟ้นเฉพาะคนดีมีฝีมือจริง ๆ เท่านั้นจึงจะเป็นที่ยอมรับ สำหรับ HR ผู้ที่ใฝ่ฝันจะก้าวสู่งานด้านบริหารต้องมีความสามารถอย่างไรบ้าง
1638 ผู้เข้าชม
งาน HR ในปัจจุบัน มีความสำคัญต่อองค์กรมากขึ้นกว่าในอดีต เพราะปัจจุบันทรัพยากรบุคคลถือเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดขององค์กร HR จึงเปรียบเสมือนหุ้นส่วนทางธุรกิจ ซึ่งไม่ได้มีบทบาทเพียงแค่ คัดคนเข้า เอาคนออก ตรวจบัตรตอก ออกใบเตือน อย่างที่คนภายนอกเข้าใจอีกต่อไป
5955 ผู้เข้าชม
นอกจากกลยุทธ์ในการทำธุรกิจแล้ว กลยุทธ์ในการดูแลบุคลากรในด้านต่างๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน องค์กรอาจใช้กลยุทธ์นี้ขับเคลื่อนธุรกิจร่วมกับกลยุทธ์อื่นๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิผลที่ดีที่สุดต่อองค์กรได้ ลองมาดูกันดีกว่าว่าจะมีกลยุทธ์อะไรน่าสนใจกันบ้าง
2460 ผู้เข้าชม
สำหรับเจ้าของธุรกิจที่มีการจดทะเบียนเข้าอยู่ในรูปบริษัทแล้ว เมื่อมีรายจ่ายต่างๆ ที่เจ้าของธุรกิจจำเป็นต้องว่าจ้างให้ทำของหรือใช้บริการ ยกตัวอย่าง จ้างฟรีแลนซ์ (บุคคลทั่วไป) ให้ทำเว็บไซต์ ออกแบบกราฟิก จ้างช่างมาซ่อมแอร์ หรือการว่าจ้างบริษัทต่างๆ เช่น บริษัทบัญชี บริษัทออกแบบโฆษณา หรือค่าบริการที่จำเป็นต่างๆ เช่น ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าประกันภัยสินค้า ค่าประกันขนส่ง ค่าเช่าออฟฟิศ ฯลฯ รายจ่ายเหล่านี้ ในฐานะเจ้าของธุรกิจซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างจะมีหน้าที่ต้องหัก ณ ที่จ่าย ของเงินค่าจ้างของผู้ให้บริการออกมาด้วย โดยที่เงินนี้จะไม่ใช่เงินของเรา แต่เป็นเงินที่ต้องนำส่งกรมสรรพากร
6051 ผู้เข้าชม
Get started for free today. DEMO FREE 60 DAYS
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์