พนักงานแบบไหนที่หัวหน้างานควรสนับสนุน

พนักงานแบบไหนที่หัวหน้างานควรสนับสนุน

ในองค์กรของคุณมีพนักงานแบบนี้อยู่หรือเปล่า คนที่พร้อมเรียนรู้ ไม่อู้งาน ไม่หมกเม็ด เอาประโยชน์ของบริษัทเป็นที่ตั้ง มีมาตรฐานการทำงานสูง ทำให้ผู้อื่นมีความสุข ฯลฯ หากมีนับเป็นความโชคดีขององค์กรคุณ และควรเก็บรักษาพนักงานเหล่านี้ไว้ให้ดี สนับสนุนพวกเขาให้ถูกทาง ตามแนวทางที่เรานำมาฝากในวันนี้

1. คนที่กระตือรืนร้นที่จะเรียนรู้นอกเหนือจากงานของตน

          พนักงานที่ชอบเรียนรู้มักจะเชื่อว่า เขาสามารถทำประโยชน์ได้มากกว่าแค่งานในหน้าที่ของตน คนกลุ่มนี้ช่างสังเกตและเรียนรู้ที่จะทำงานอื่น ๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว เช่น งานบางอย่างด้านการเงิน งานด้านไอที งานบริหาร ซึ่งหากได้รับการ สนับสนุนก็จะเป็นบุคลากรที่ทำประโยชน์ให้แก่องค์กรได้อย่างมากมาย

          หัวหน้าจะสนับสนุนอย่างไร : สนับสนุนด้านเครื่องมือในการทำงาน รวมทั้งจัดฝึกอบรมหรือส่งพนักงานเข้าร่วมการสัมมนาพื้นฐานการทำงานด้านต่าง ๆ เช่น การบัญชี การตลาด การบริหาร เป็นต้น เพื่อให้พนักงานได้เติบโตจากการเรียนรู้และได้ทำงานที่หลากหลาย

2. คนที่นึกถึงบริษัทก่อนเสมอ

          พนักงานที่ปฏิบัติต่อบริษัทราวกับเป็นบริษัทของเขาเอง ทั้งระมัดระวังในการใช้จ่าย มองหาโอกาสในระยะยาวให้แก่บริษัท รู้จักประเมินความเสี่ยง และความสำเร็จ ทั้งยังคำนึงถึงผู้อื่นก่อนตัดสินใจทำสิ่งต่าง ๆ เสมอ

          หัวหน้าจะสนับสนุนอย่างไร :  ให้ความรู้เกี่ยวกับบริษัทแก่พนักงาน ทั้งในเรื่องวิสัยทัศน์ ปรัชญาองค์กร และ การเงิน ยิ่งพนักงานเข้าใจบริษัทมากเท่าไร ยิ่งง่ายต่อการตัดสินใจที่ถูกต้องมากเท่านั้น

3. คนที่กล้าพูดความจริง

          พนักงานที่รู้ว่าการปกปิดข่าวร้ายอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมา เมื่อไรก็ตามที่มีอะไรผิดไปจากที่วางแผนไว้ พวกเขาจะรีบแจ้งให้หัวหน้างานรับทราบทันที ไม่อมพะนำเอาไว้ ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที

          หัวหน้าจะสนับสนุนอย่างไร :  สร้างบรรยากาศการทำงานให้พนักงานรู้สึกอุ่นใจที่จะพูดคุยสื่อสารกับหัวหน้า กล้าที่จะพูดความจริง

4. คนที่มีมาตรฐานการทำงานสูง

          ไม่ใช่ว่าพนักงานที่คุณมีจะสามารถรับมือกับงานและปัญหาต่าง ๆ ได้ดีทุกคน ดังนั้น หากคุณมีพนักงานที่สามารถวางใจได้ว่าเขาจะทำงานอย่างมีคุณภาพ ด้วยมาตรฐานที่คุณคาดหวัง จงสนับสนุนพวกเขา

          หัวหน้าจะสนับสนุนอย่างไร :  กำหนดมาตรฐานงานที่คุณต้องการพร้อมยกตัวอย่างให้พนักงานเข้าใจตรงกัน หากพนักงานสามารถทำได้ตามมาตรฐานที่วางไว้จะได้รับรางวัลเพื่อเป็นกำลังใจ

5. คนที่พัฒนาตนเอง และจูงใจผู้อื่น

          พนักงานที่พัฒนาตนเองอยู่เสมอ และไม่หยุดที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นพัฒนาไปด้วยกัน เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเพื่อนร่วมงาน โดยไม่ทำให้ผู้อื่นหมั่นไส้ หรือเกลียดชัง

          หัวหน้าจะสนับสนุนอย่างไร :  ส่งเสริมการพัฒนาบุคคล ทั้งตัวพนักงานเองและการส่งเสริมเพื่อนร่วมงาน โดยจัดเวลาให้พนักงานมีกิจกรรมกลุ่มเพื่อเรียนรู้ที่จะพัฒนาอาชีพร่วมกัน

6. คนที่ค้นคว้า ปฏิบัติ และปรับปรุงการทำงานอยู่เสมอ

          ไม่มีพนักงานคนไหนที่สมบูรณ์แบบ และรู้ดีไปหมดทุกเรื่อง แต่หากคุณมีคนที่ชอบค้นคว้า ลงมือทำ และปรับปรุงแก้ไขด้วยตนเองเสมอ คนเหล่านี้อาจเป็นดาวรุ่งขององค์กรสักวัน

          หัวหน้าจะสนับสนุนอย่างไร : ให้เวลาและคำแนะนำกับพนักงานในการค้นคว้าให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และให้รางวัลสำหรับการค้นพบของพวกเขา

7. คนที่ทำให้คนรอบข้างมีความสุข

          พนักงานที่เข้าใจชีวิตการทำงานและสามารถผสมผสานจัดสมดุลชีวิตและงาน และมิตรภาพได้ดี ทำให้ผู้อื่นมีความสุขได้แม้ในช่วงเวลาที่คร่ำเครียดกับงาน

          หัวหน้าจะสนับสนุนอย่างไร : สนับสนุนการมีทัศนคติที่ดีในการทำงาน จัดกิจกรรมให้พนักงานได้มีโอกาสปลดปล่อยความเครียด และเกิดบรรยากาศการทำงานอย่างมีความสุข

          พนักงานที่มีคุณสมบัติดังกล่าวเปรียบเสมือนเพชรเม็ดงามในมือ เมื่อคุณได้มาแล้ว ควรรักษาให้ดี ทำให้พวกเขารับรู้ว่าคุณเห็นคุณค่าในตัวพวกเขา สนับสนุนสิ่งที่พวกเขาทำ เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่พวกเขาต่อไป

นอกจากการสนับสนุนพนักงานแล้ว การแบ่งประเภทพนักงานตามขีดจำกัดความสามารถ ก็เป็นสิ่งสำคัญต่อองค์กร ถ้าคุณสามารถจัดการกับพนักงานได้ถูกต้องพนักงานจะสามารถพัฒนาตัวเองได้มากขึ้น


ที่มา : th.jobsdb.com

 1736
ผู้เข้าชม
ทำเว็บธุรกิจ ทําเว็บขายของ ออกแบบเว็บไซต์ เว็บไซต์สำเร็จรูป SoGoodWeb

HR Articles

1.ไม่เป็นไร ผิดพลาดกันได้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ทำงานผิดพลาดแล้วยังจะมานั่งโทษตัวเองให้เหนื่อยทำไม ให้กำลังใจตัวเองเพื่อทำงานชิ้นต่อไปดีกว่า ยิ่งเรามัวจมกับความผิดพลาดเดิม ๆ เราก็จะทำงานอื่นต่อไม่ได้ สู้เอาความผิดพลาดมาทำให้ถูกต้องในงานชิ้นใหม่ดีกว่า สัจธรรมของชีวิตที่ต้องจำไว้อย่างหนึ่งก็คือ ไม่มีใครจำเรื่องของคนอื่นนานหรอก ถึงใครจะว่าเรามากมายแค่ไหน แต่พอเดินพ้นหน้าเราไปเขาก็ต้องคิดเรื่องอื่นแทน แล้วเราจะมาลงโทษตัวเองอยู่ทำไม 2.งานไม่ได้หนักทุกวันสักหน่อย เดี๋ยวก็ได้พักแล้ว เวลางานล้นมือเราอาจท้อ แต่ท้อไปงานก็ไม่เสร็จ ลุกมาทุ่มเททำให้เสร็จ ๆ ไปดีกว่า เหนื่อยแค่ไหนเดี๋ยวก็ได้พัก และสิ่งที่เราต้องทำเมื่องานเยอะ คือจัดระเบียบเส้นตายของงานแต่ละชิ้น เจรจาต่อรองถ้าคิดว่าจะไม่เสร็จตรงเวลา แล้วก็ค่อย ๆ ทำไปทีละงาน เดี๋ยวดีเอง 3.ถึงจะไม่เก่งงานนี้ แต่เราก็พยายามเต็มที่แล้ว บ่อยครั้งที่เราได้รับมอบหมายงานที่ไม่ถนัด ก็คิดเสียว่าไม่เป็นไร ทำให้เต็มที่ แต่ก่อนทำก็บอกคนที่มอบหมายหน่อยว่าไม่ค่อยถนัดนะ แต่จะทำเต็มที่ ผิดพลาดอะไรก็บอกได้ เขาจะได้ไม่คาดหวังมาก แต่ถ้าทำออกมาแล้วดีก็ถือเป็นกำไร อย่าเสียใจที่ทำงานบางประเภทไม่เก่ง เพราะเราก็อาจจะเก่งในงานประเภทอื่นก็ได้ จำไว้ว่าปลาอาจจะว่ายน้ำเก่งกว่าลูกสุนัข แต่ปลาก็วิ่งไม่ได้เหมือนกัน ถ้าปลาตัวหน่งจะโดดขึ้นมาบนบกแล้วคืบคลานจนถลอกปอกเปิกก็คงไม่มีใครว่าอะไร เพราะมันเป็นปลาจริงไหม
1230 ผู้เข้าชม
ในการจัดการทรัพยากรบุคคล (HR) เทคโนโลยี Machine Learning อาจเป็นสาขาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของ AI ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถระบุผู้สมัครที่มีแนวโน้มว่าจะประสบความสำเร็จมากที่สุดในตำแหน่งงานนั้นๆ หรือตรวจสอบว่าพนักงานคนใดไม่เหมาะกับบางตำแหน่งงานในช่วงสองสามปีข้างหน้า เราจะสามารถคาดการณ์ล่วงหน้า และเพิ่มประสิทธิภาพด้านการจัดการทรัพยากรบุคคลได้เพียงการป้อนข้อมูลเข้าสู่ระบบ
2953 ผู้เข้าชม
หลังจากที่เราทราบกันแล้วนะครับว่า เรามีสิทธิประโยชน์ ในการลดหย่อนภาษีได้อย่างไรบ้าง หากยังไม่ทราบอย่าลืม “เช็คสิทธิ ! ค่าลดหย่อนภาษีของคุณว่ามีอะไรบ้าง” กันด้วยนะครับ บทความนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องที่มักเข้าใจผิดบ่อยเกี่ยวกับการใช้สิทธิ “ลดหย่อนภาษี” กันครับ
816 ผู้เข้าชม
“ภาษี” เป็นรายจ่ายตัวนึงที่สำคัญมากแล้วทุกคนต้องจ่าย นั่นก็คือ รายจ่ายเรื่อง “ภาษี” แต่ก็อย่างที่เรารู้กันว่าภาษีเป็นเรื่องที่ทุกคนยังไงก็ต้องจ่าย ไม่ว่าจะเป็นทางตรงอย่างช่วงต้นปีของทุกปีเราก็ต้องรายงานกับสรรพากรว่าเรามีรายได้เท่าไหร่ ต้องเสียภาษีเท่าไหร่ ถ้าใครจ่ายเกินไปก็ขอคืนได้ ถ้าใครจ่ายภาษีขาดไปก็จ่ายเพิ่ม หรือจะเป็นภาษีทางอ้อมที่บางครั้งก็จ่ายแบบไม่รู้ตัว
813 ผู้เข้าชม
Get started for free today. DEMO FREE 60 DAYS
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์