พนักงานได้รางวัลจากบริษัทต้องเสียภาษีหรือไม่

พนักงานได้รางวัลจากบริษัทต้องเสียภาษีหรือไม่



ในปัจจุบันการแข่งขันทางธุรกิจในประเทศไทยนั้นนับวันยิ่งมีความดุเดือดมากขึ้น หากองค์กรหยุดนิ่งหรือไม่พัฒนาเท่าที่ควร ก็อาจส่งผลต่อความอยู่รอดขององค์กรได้ ดังนั้น ผู้บริหารในแต่ละองค์กรจึงต้องวางแผนสร้างหนทางให้ธุรกิจของตนเองอยู่รอดและพัฒนาเหนือคู่แข่งให้ได้ และปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมความมั่นคงและการพัฒนาขององค์กรก็คือ การมีบุคลากรที่มีประสิทธิภาพมาทำงานในองค์กร และเมื่อได้บุคลากรดังกล่าวมาแล้ว จะทำอย่างไรเพื่อดึงดูดให้บุคลากรเกิดความรู้สึกรักและอยากทำงานให้กับองค์กรไปนานๆ ซึ่งแน่นอนว่าการมีสวัสดิการที่ดีและเหมาะสมเป็นสิ่งหนึ่งที่เป็นแรงดึงดูดให้พนักงานอยากทำงานกับองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นเงินเดือน การเลื่อนตำแหน่ง หรือสวัสดิการอื่นๆ เช่นมีรางวัลพิเศษจากการจัดแข่งขันกีฬาภายในบริษัท ซึ่งผู้เขียนขอหยิบยกประเด็นทางภาษีอากรของเงินรางวัลที่ได้รับจากการแข่งขันกีฬาภายในบริษัท

หลายท่านคงมีข้อสงสัยว่า หากมีรางวัลตอบแทนแก่ผู้ชนะการแข่งขัน เงินรางวัลที่พนักงานได้รับดังกล่าว จะถือว่าเป็นเงินได้  ที่พนักงานต้องนำมารวมเป็นเงินได้เพื่อเสียภาษีหรือไม่ และในฐานะเป็นผู้จ่ายเงินบริษัทมีหน้าที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายได้อย่างไร ผู้เขียนมีเกร็ดความรู้ที่นำมาแบ่งปันดังนี้ค่ะ

กรณีที่พนักงานได้รับเงินรางวัลจากการแข่งขันกีฬาที่บริษัทจัดขึ้น ถือเป็นประโยชน์ที่ได้รับเพิ่มขึ้นจากการจ้างแรงงาน อันเป็นเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี ซึ่งบริษัทเป็นผู้จ่ายเงินมีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย และนำส่งสรรพากร ทั้งนี้ ควรจะมีการจัดทำระเบียบข้อบังคับของบริษัท เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมและเงินรางวัลเพื่อเป็นสวัสดิการของพนักงานเป็นการทั่วไป ไม่เลือกปฏิบัติ คือ พนักงานทุกคนมีสิทธิเข้าร่วมแข่งขันชิงรางวัล ต่อมาเมื่อพนักงานได้รับเงินรางวัล จึงต้องนำเงินได้ดังกล่าวมาคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และบริษัทในฐานะเป็นผู้จ่ายเงินได้ดังกล่าว ย่อมมีหน้าที่จะต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย แต่บริษัทจะหักภาษี ณ ที่จ่ายอย่างไร หลายท่านคงมีข้อสงสัยว่า


กรณีพนักงานได้รับรางวัล เสียภาษีต่างกับ กรณีประกวดแข่งขันชิงรางวัลหรือไม่

ขอเรียนว่า เงินรางวัลที่ได้จากการแข่งขันชิงรางวัล เช่น รางวัลจากการแข่งขันเกมส์โชว์ ในรายการโทรทัศน์ ถือเป็นเงินได้เนื่องจากการประกวดแข่งขัน  เป็นเงินได้คนละประเภทกันกับเงินรางวัลของพนักงานที่ได้เนื่องจากการจ้างแรงงาน ซึ่งในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดากฎหมายยอมให้หักค่าใช้จ่ายได้ไม่เหมือนกัน และเงื่อนไขในการหักภาษี ณ ที่จ่ายก็แตกต่างกัน ยกตัวอย่าง  เงินรางวัลที่ได้จากการแข่งขันเกมส์โชว์ ผู้จ่ายเงินได้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 5  ส่วนเงินรางวัลที่พนักงานได้รับจากบริษัท จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายตามอัตราภาษีแบบก้าวหน้า นอกจากนี้พนักงานยังมีหน้าที่ต้องนำเงินได้จากรางวัลดังกล่าวมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอีกครั้งหนึ่ง และสามารถนำภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่ถูกหักไว้มาเป็นเครดิตภาษีได้

ดังที่ได้กล่าวมาแล้วจะเห็นว่า การแยกประเภทของเงินได้ให้ถูกต้องนับเป็นสิ่งสำคัญและต้องใช้ความละเอียดรอบคอบในการพิจารณา ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในทางภาษีอากร ซึ่งหากมีการคำนวณเงินได้เพื่อเสียภาษีผิดประเภท อาจส่งผลให้บริษัทซึ่งเป็นผู้จ่ายต้องร่วมรับผิดกับพนักงานในจำนวนภาษีที่ขาดไป และอาจจะต้องรับผิดในการเสียเบี้ยปรับ หรือเงินเพิ่ม จากเหตุดังกล่าวด้วย ดังนั้น ไม่ว่าท่านจะอยู่ในฐานะเป็นผู้จ่ายเงินได้หรือผู้มีเงินได้ ก็ควรทำความเข้าใจในหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของกฎหมายภาษีอากร เพื่อเป็นแนวทางในการพิจารณาและป้องกันความผิดพลาดที่เกิดจากการคำนวณภาษีในภายหลัง


ที่มา : www.dlo.co.th

 2537
ผู้เข้าชม
ทำเว็บธุรกิจ ทําเว็บขายของ ออกแบบเว็บไซต์ เว็บไซต์สำเร็จรูป SoGoodWeb

HR Articles

10 ข้อที่มือใหม่ยื่นภาษีทุกคนควรรู้ เพื่อที่จะได้ระวังและไม่มีปัญหาในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา รามาดูกันเลยดีกว่าว่า 10 ข้อควรระวังที่ว่านี้มีอะไรบ้าง
1198 ผู้เข้าชม
นายปรี๊ดค้นเจอบทความชิ้นหนึ่งของผู้เขียน ชื่อ นาเดีย กูดแมน จากเว็บไซต์ ideas.ted.com ซึ่งเป็นบทสัมภาษณ์ ดร.เคลลี่ แมคกอนิกัล (Kelly McGonigal) อาจารย์สาขาจิตวิทยา แห่งมหาวิทยาลัยสแตนด์ฟอร์ด ผู้เขียนหนังสือ “The Willpower Instinct” ซึ่งถูกแปลมากว่า 10 ภาษาและประสบความสำเร็จมากในประเทศญี่ปุ่น เป็นหนังสือสไตล์ฮาวทู (how to) เผื่อใช้จัดการวินัยในตนเอง บนฐานคิดและหลักฐานการทดลองทางวิทยาศาสตร์ เพื่อสร้างความสำเร็จแก่ตนเอง
1162 ผู้เข้าชม
หากคุณมีลูกเล็กๆ หรือเคยมีประสบการณ์กับการเลี้ยงเด็ก จะพบว่าเด็กเล็กๆ ที่ยังไม่สามารถพูดได้ ก็ต้องการการสื่อสาร พูดคุยเหมือนกัน จริงๆ แล้ว คนเราเกิดมาต้องการการสื่อสารทันทีที่คลอดเลยด้วยซ้ำ ดูได้จาก หากเด็กที่คลอดออกมาแล้วไม่ร้อง หมอจะตีหรือทำทุกวิธีที่ให้เด็กร้องเพื่อปอดจะได้เริ่มทำงาน พอโตขึ้นมาหน่อยก็เริ่มพูดเพื่อสื่อสารให้คนรอบข้างเข้าใจ
2595 ผู้เข้าชม
ผู้ถึงแก่ความตายระหว่างปีภาษี” หมายความว่า ถ้าตายไประหว่างปีไหน ปีนั้นก็จะกลายเป็นว่ายังต้องเสียภาษีอยู่ในชื่อของตัวเอง แต่เปลี่ยนฐานะใหม่เป็นผู้ถึงแก่ความตายระหว่างปีภาษี หรือพูดง่ายๆ ว่า ตายแล้วก็ต้องไปเสียภาษีอีกต่อหนึ่ง
1713 ผู้เข้าชม
Get started for free today. DEMO FREE 60 DAYS
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์