“การฟัง” ทักษะที่ถูกลืม

“การฟัง” ทักษะที่ถูกลืม

หากคุณมีลูกเล็กๆ หรือเคยมีประสบการณ์กับการเลี้ยงเด็ก จะพบว่าเด็กเล็กๆ ที่ยังไม่สามารถพูดได้ ก็ต้องการการสื่อสาร พูดคุยเหมือนกัน จริงๆ แล้ว คนเราเกิดมาต้องการการสื่อสารทันทีที่คลอดเลยด้วยซ้ำ ดูได้จาก หากเด็กที่คลอดออกมาแล้วไม่ร้อง หมอจะตีหรือทำทุกวิธีที่ให้เด็กร้องเพื่อปอดจะได้เริ่มทำงาน พอโตขึ้นมาหน่อยก็เริ่มพูดเพื่อสื่อสารให้คนรอบข้างเข้าใจ ดังนั้น เราทุกคน เกิดมาพร้อมกับความต้องการที่จะสื่อสารแต่เมื่อพูดถึงการสื่อสาร คนส่วนใหญ่มักคิดถึง “การพูดหรือการเขียน” เท่านั้นสังเกตได้จากหลักสูตรการอบรมต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไปในท้องตลาด มีแต่เรื่องเหล่านี้ เช่นทักษะการพูดในที่สาธารณะ ทักษะการเขียนจดหมายธุรกิจ เป็นต้น

แต่ทักษะหนึ่งที่เป็นสิ่งจำเป็น แต่กลับถูกลืมไป คือ ทักษะการฟัง ลองสังเกตดูซิ มีหลักสูตรใดบ้างสอนคุณเรื่อง “ฟัง”

แต่เชื่อไหมว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องที่ลูกน้องไม่พอใจหัวหน้า หัวหน้าไม่ชอบใจลูกน้อง หรือแม้แต่เรื่องที่ทะเลาะกันในครอบครัว ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการ “ไม่ฟัง” เพราะคนส่วนใหญ่มักคิดว่าตัวเอง “ฟัง” อยู่แล้ว คนอื่นต่างหากที่ “ไม่ฟัง” ปัญหาจึงอยู่ที่ คนอื่น จริงๆ แล้ว “การฟัง” ต่างจาก “การได้ยิน” คุณเคยฟังข่าว 7 โมงเช้าทางวิทยุไหม ก่อนจบข่าวจะเป็นพยากรณ์อากาศ สมมุติข่าวจบ เพื่อนที่นั่งรถมาด้วย ถามคุณว่า “เมื่อกี้เขาบอกว่าพระอาทิตย์จะตกกี่โมงนะ” เป็นไปได้ไหม ที่คุณตอบไม่ได้ เพราะไม่ได้ “ฟัง” แม้จะ “ได้ยิน” ? นอกจากนั้นสิ่งสำคัญที่ควรเข้าใจคือ “ได้ยิน” เราเป็นคนตัดสิน แต่ “ฟัง” คนอื่นตัดสินนะครับ ตัวอย่างเช่น หากหัวหน้าได้ยินทุกอย่างที่คุณพูด แต่ท่าทางของท่านเหมือนไม่ได้ฟังคุณอยู่ คุณจะคิดว่าท่านฟังหรือเปล่า

ดังนั้น การฟังต้องฝึก ผมมีเทคนิคการฟังที่ดี 4 ประการ มาแลกเปลี่ยน การฟังที่มีประสิทธิภาพ ต้องครบทุกองค์ประกอบ ได้แก่

"ฟังด้วยหู" ดั่งคำโบราณว่าไว้คือ “ เงี่ยหูฟัง” หรือ ตั้งใจฟัง

"ฟังด้วยตัว" หันตัวไปหาผู้พูด หรือโน้มตัวเข้าไปเพื่อฟัง แม้แต่การพยักหน้าก็บ่งบอกถึงอากัปกิริยาการฟัง

"ฟังด้วยตา" ประสานสายตา หรือสบตาผู้พูดเป็นระยะๆ หรือใช้ตาดูภาษากายของผู้พูดระหว่างการสนทนา

"ฟังด้วยปาก" พูดตอบโต้ สอบถาม ในเรื่องที่ฟังอย่างเหมาะสม และถูกจังหวะ

เราฝึกการพูดมาตั้งแต่เด็ก แต่การฟังกลับเป็นทักษะที่ถูกมองข้ามไป หากวันนี้คิดอยากจะเพิ่มเติมทักษะอะไรสักอย่าง ผมแนะนำทักษะการฟัง แม้ดูเหมือนง่าย แต่ไม่ง่าย ต้องอาศัยการฝึกฝน ฝึกฝน และ ฝึกฝน

 2620
ผู้เข้าชม
ทำเว็บธุรกิจ ทําเว็บขายของ ออกแบบเว็บไซต์ เว็บไซต์สำเร็จรูป SoGoodWeb

HR Articles

หากเปรียบง่ายๆ คือ ภาษีเหมือนกับค่าธรรมเนียมค่าเช่าที่สมาชิกทักคนในประเทศจะต้องจ่ายเมื่อใช้ทรัพย์ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทห้างร้านต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในประเทศหรือเป็นพนักงาน ประชาชนทั่วไปที่ใช้ถนน รถไฟ สะพาน สาธารณูปโภคต่างๆ ที่อยู่ในประเทศไทย ซึ่งหากสมาชิกทุกคนร่วมกันใช้ทรัพยากรหรือสาธารณูปโภคนั้นๆ แล้วก็ต้องช่วยกันจ่ายเงินบำรุงทรัพยากรนั้นสามารถใช้ประโยชน์ได้ต่อไปในอนาคต หรือนำเงินที่เรียกเก็บแต่ละคนในแต่ละปีนำไปพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ด้วยเหตุนี้ ภาษีจึงมีความสำคัญกับประเทศอย่างมาก
37087 ผู้เข้าชม
เราสามารถสร้างการคัดสรรพนักงานด้วยวิธีการที่ไม่เหมือนใครขึ้นมาได้ มากกว่าแค่การเรียกมานั่งสัมภาษณ์งานเท่านั้น ซึ่งกระบวนการต่างๆ สามารถที่จะทดสอบตลอดจนวัดค่าในมุมต่างๆ ได้เพิ่มขึ้นและมีประสิทธิภาพขึ้นด้วย ที่สำคัญกระบวนการสรรหาที่คัดสรรนี้ยังช่วยสร้างการรับรู้ที่ดีในองค์กรได้เช่นกัน เราลองมาดูกันดีกว่าว่ามีวิธีการคัดสรรที่สร้างสรรค์อะไรที่น่าสนใจกันบ้าง
2406 ผู้เข้าชม
หลาย ๆ คนคงทราบดีอยู่แล้วว่า สวัสดิการพนักงาน นั้น แม้จะเป็นสิ่งที่ทางบริษัท หรือนายจ้างมอบให้แก่พนักงานหรือลูกจ้างทุก ๆ คน เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานของลูกจ้างและเพื่อให้ลูกจ้างมีสภาพความเป็นอยู่ในการทำงานที่ดีขึ้นก็ตาม แต่สิ่งที่ได้รับมาเหล่านั้นก็ต้องถูกนำไปคิดคำนวณเป็นเงินได้พึงประเมินของเราในการชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในรอบปีบัญชีนั้น ๆ เว้นแต่สวัสดิการต่าง ๆ ที่เราได้รับ จะถูกจัดอยู่ในข้อบัญญัติตามกฎหมายให้มีการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ แต่จะมีสวัสดิการตัวใดกันที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องมาคำนวณภาษี ค่าคลอดบุตรถือเป็นรายได้เพื่อเสียภาษีหรือไม่ ค่าเบี้ยเลี้ยงทางภาษี ถือเป็นสวัสดิการที่ได้รับการยกเว้นหรือเปล่า และค่าเดินทางเหมาจ่ายต้องเสียภาษีหรือไม่ วันนี้เรามีคำตอบค่ะ
21825 ผู้เข้าชม
เอสซีจี ให้ความสำคัญกับพนักงานเป็นอย่างมาก เนื่องจากตระหนักอยู่เสมอว่าพนักงานเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดขององค์กร โดยการพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารทรัพยากรบุคคลของบริษัทปูนซีเมนต์ไทย เริ่มตั้งแต่การสรรหาผู้ที่เป็นคนเก่งและดีเข้ามาร่วมงาน โดยจัดโครงการ “Drawing Your Career with SCG Career Camp” เพื่อจูงใจผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จากสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำของประเทศไทยให้มาทำงานกับบริษัท ซึ่งถือว่าเป็นการสรรหาบุคลากรในเชิงรุก นอกจากนี้ยังมีโครงการ “Top Ten University Recruitment” เพื่อสรรหาผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท ด้านบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยท็อป 10 ในสหรัฐอเมริกาหรือมหาวิทยาลัยชั้นนำในยุโรปอีกด้วย การพัฒนาบุคลากรของเอสซีจีจะดำเนินการโดยการให้ทุนการศึกษาและการอบรม โดยการอบรมนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ Business Knowledge และ Leadership Skills ซึ่งทางเอสซีจีได้จัดสรรงบประมาณสำหรับการฝึกอบรมคิดเป็นร้อยละ 0.19 ของรายได้ของบริษัทในปี 2550 สำหรับผู้ที่ผ่านหลักสูตรทั้งหมดแล้วและได้ขึ้นเป็นผู้บริหาร ทางเอสซีจีได้จัดหลักสูตรอบรมเพิ่มเติมได้แก่ Advance Management Program (AMP) และ Executive Development Program (EDP) โดยหลักสูตรแรกเอสซีจีร่วมมือกับ ฮาวาร์ด บิสสิเนสท สคูล และวาร์ตัน บิสสิเนส สคูล ส่วนหลักสูตร EDP ร่วมมือกับ โคลัมเบีย บิสสิเนส สคูล ซึ่งค่าใช้จ่ายสำหรับฝึกอบรมผู้บริหารนี้จะแยกอิสระออกจากงบพัฒนาบุคคลหลัก
26597 ผู้เข้าชม
Get started for free today. DEMO FREE 60 DAYS
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์