5 เรื่อง "คน" ที่ผู้บริหารกังวล

5 เรื่อง "คน" ที่ผู้บริหารกังวล

ขึ้นชื่อว่า "คน" ยังไงคงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ยิ่งในยุคธุรกิจขยายตัว ตอบรับกับการ เปลี่ยนแปลงรอบด้านด้วยแล้ว การวางกลยุทธ์ธุรกิจย่อมหลีกไม่พ้นต้องวางกลยุทธ์การบริหารงานบุคคล และพัฒนาคนด้วยเช่นกัน

ล่าสุดดีลอยท์ฯได้เปิดเผยผลสำรวจที่เรียกว่า "Talent Edge 2020" ซึ่ง ร่วมทำกับฟอร์บส อินไซต์ส เพื่อสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารและพนักงานในประเด็นต่าง ๆ ครอบคลุม 400 บริษัทที่มีขนาดธุรกิจมูลค่ามากกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ ในอเมริกาเหนือ, เอเชีย-แปซิฟิก, ยุโรป, ตะวันออกกลาง และแอฟริกา

ส่วนในประเทศไทย "อภิรักษ์ จาตุกัญญาประทีป" และ "เกสรา ศักดิ์มณีวงศา" หุ้นส่วนด้านที่ปรึกษาธุรกิจ บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ ที่ปรึกษา จำกัด ได้เล่าถึงผลสำรวจที่เผยแพร่ออกมาว่า จากการสอบถามทั้งจากมุมมองของผู้บริหารและพนักงาน สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่

ทำให้พบว่า 5 เรื่องแรกที่ผู้บริหารมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องคนมากที่สุด ได้แก่ 

1. การพัฒนาผู้นำรุ่นถัดไป และการวางแผนสืบทอดตำแหน่งงาน (30%)

2. เรื่องการสรรหา และการรักษาคนให้อยู่กับองค์กร โดยเฉพาะคนที่มีความ สามารถหรือ Talent (29%) อ่านวิธีการรักษาคนให้อยู่กับองค์กรไว้นานได้ที่:การรักษาคนเก่งให้อยู่กับองค์กร

3. การสร้างความยั่งยืนด้วยศีลธรรม และการผูกใจพนักงาน (25%)

4. เป็นความกังวลเรื่องการแข่งขันเพื่อจูงใจให้คนเก่ง หรือคนที่มีความสามารในตลาดที่ธุรกิจกำลังจะขยายไปอยู่ทั้งในระดับโลก และในตลาดเกิดใหม่อยากมาทำงานกับธุรกิจของตน (23%)

5. คือความกังวลเรื่องการลดค่าใช้จ่ายต่อหัว และต้นทุนด้านคน (23%) เช่นกัน

เบื้องต้น "เกสรา" ระบุว่า ความกังวลเรื่องคนของผู้บริหารอยู่ที่ 3 เรื่องหลัก คือจะหาคนเก่งอย่างไร จะพัฒนาคนเก่งอย่างไร และจะรักษาเขาไว้ได้อย่างไร เพราะ ทั้งหมดนี้ไม่เพียงเป็นสิ่งสำคัญของการพัฒนาคน หากในเรื่องการสรรหาคนเก่ง การพัฒนาคนเก่ง และการรักษาคนเก่ง ยังเป็นเทรนด์หลักของการพัฒนาคนทุกปี ทุกหน่วยงาน ที่ไม่เพียงแต่ภาครัฐและเอกชนเท่านั้น หากในระดับภูมิภาคและระดับโลก ทั้ง 3 เรื่องหลักยังคงเป็นสิ่งที่ผู้บริหารองค์กรต่างต้องการทั้งสิ้น

แต่กระนั้น เมื่อย้อนมองถึงตัวเลข ผลสำรวจใน 5 เรื่องแรกที่ผู้บริหารมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องคนมากที่สุด โดยเฉพาะในความกังวลแรก คือการพัฒนาผู้นำรุ่นถัดไป และการวางแผนสืบทอดตำแหน่ง ที่ผลสำรวจระบุว่าอยู่ที่ประมาณ 30% นั้น ถ้ามองในเชิงสถิติ จะพบว่าความกังวลต่อประเด็นนี้ถือว่ามีตัวเลขที่สูงพอสมควร เพราะดังที่ทราบ เรื่องของการพัฒนาผู้นำรุ่นถัดไป และการวางแผนสืบทอดตำแหน่งกำลังเป็นเรื่องกังวลของผู้บริหารชาวเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา

เนื่องจากผู้บริหารในยุคเบบี้บูมเมอร์กำลังจะลงจาก ตำแหน่ง และยังสรรหา ผู้ที่จะเข้ามาทดแทนไม่ทัน ทั้งในเรื่องของธุรกิจครอบครัว และธุรกิจหุ้นส่วน ยิ่งเฉพาะกับประเทศในเอเชียกำลังประสบปัญหาเรื่องนี้อย่างมาก

ดังนั้น เมื่อมาโยงประเด็นให้สอดคล้องกับประเด็นด้านกลยุทธ์ธุรกิจที่ฝ่ายบริหารให้ ความสนใจ เพราะจากการสำรวจระบุว่ามี 3 เรื่องสำคัญที่ผู้บริหารให้ความสนใจ และเกี่ยวข้องกับกลยุทธ์ธุรกิจในปัจจุบัน คือ

หนึ่ง การปรับปรุงรายได้ และผลกำไร 38%

สอง การขยายตลาดเข้าไปในตลาดใหม่ ๆ และในระดับโลก เนื่องจากตลาดปัจจุบันไร้พรมแดน (33%)

สาม การบริหารต้นทุน ว่าจะทำอย่างไรให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีต้นทุนดีขึ้น(32%)

"โดยเฉพาะการขยายตลาดเข้าไปในระดับโลกและตลาดเกิดใหม่ เป็นเรื่องที่ผู้บริหารให้ความสำคัญ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี จาก 12% ในปี 2552 เพิ่มขึ้นเป็น 33% ในปีล่าสุด"

ดังนั้น การพัฒนาผู้นำรุ่นใหม่ การสรรหาคนเก่ง คนมีความสามารถ พัฒนาคนเก่ง และรักษาคนเก่ง เพื่อตอบรับการกลยุทธ์การขยายตัวของธุรกิจ จึงเป็นเรื่องที่อยู่ในใจของผู้บริหาร และต้องการเครื่องมือในการบริหารจัดการเรื่องเหล่านี้ จากการสำรวจ ของดีลอยท์ฯยังทำ ให้พบอีกว่า สิ่งที่ผู้บริหารเลือกเพื่อจัดการ รักษาคนเก่ง และคนมีความสามารถให้อยู่กับองค์กร มีอยู่ 3 เรื่องใหญ่ ๆ ด้วยกัน คือ

หนึ่ง การบริหารจัดการการประเมินผลงาน (PM : Performance Management) สูงถึง 73%

สอง การประเมินว่าใครคือคนเก่ง ใครคือคนมีความสามารถ โดยดูที่ศักยภาพของคนคนนั้น เพื่อแยกให้ออกกับพนักงานทั่วไป (talent assessment) 72%

สาม การมีแผนที่ชัดเจน เพื่อพัฒนาพนักงานที่มีศักยภาพสูง 71%

นั่นคือภาพรวมในฝ่ายผู้บริหาร ขณะที่ในฝ่ายพนักงานกลับมีผลสำรวจที่น่าตกใจ คือพนักงานมากถึง 65% ใน 400 บริษัทที่สำรวจระบุว่ามีแผนจะย้ายงาน ขณะที่อีก 30% เริ่มหางานอย่างจริงจัง

โดยพบสาเหตุของการย้ายงาน คือพนักงานรู้สึกว่าขาดความก้าวหน้าในสายอาชีพ (28%) ขณะที่เรื่องผลตอบแทน เรื่องความมั่นคงในการทำงาน และการขาดความเชื่อมั่นในตัวผู้นำ กลับเป็นลำดับที่ 2, 3 และ 4 และมีสัดส่วน 24% เท่ากัน ส่วนการรักษา พนักงานที่เก่งและมีความสามารถ ในมุมมองของพนักงานระบุว่า เขาต้องการให้ความสำคัญกับการเลื่อนขั้นตำแหน่งงาน และการสร้างความก้าวหน้าในสายอาชีพ (53%)

ถัดมา 39% ระบุว่า ต้องการให้เพิ่มผลค่าตอบแทนในรูปแบบเงิน และไม่ใช่เงิน เช่น สวัสดิการต่าง ๆ และการเพิ่มโบนัส หรือเงินอัดฉีด 34%

อย่างไรก็ตาม มีพนักงานถึง 30% ระบุว่า เขาต้องการได้รับการสนับสนุน และการยอมรับจากหัวหน้างานและผู้บริหาร ซึ่งส่วนนี้ "เกสรา" บอกว่า เป็นสิ่งที่ผู้บริหารสามารถทำได้ และไม่ต้องใช้เงินด้วยซ้ำ ส่วนบริบทธุรกิจไทย "เกสรา" ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สิ่งที่ผู้บริหารไทยกำลังกังวลอย่างมาก คือเมื่อธุรกิจต้องการขยายตัว แต่ธุรกิจกลับไม่สามารถ สร้างผู้นำรุ่นใหม่ขึ้นมาได้ และมีปัญหาภาวะผู้นำสูงมาก โดยเฉพาะในธุรกิจการผลิต

จึงเป็นเรื่องท้าทายในภาคการผลิตอย่างยิ่ง !

 3687
ผู้เข้าชม
ทำเว็บธุรกิจ ทําเว็บขายของ ออกแบบเว็บไซต์ เว็บไซต์สำเร็จรูป SoGoodWeb

HR Articles

ต้องยอมรับว่าทันทีที่โลกก้าวสู่ศตวรรษที่ 21 ทุกสิ่งทุกอย่างก็มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมายและรวดเร็ว นั่นรวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางอาชีพ และการปฎิวัติทางการทำงานที่ทุกฝ่ายต้องปรับตัวกันขนานใหญ่ตั้งแต่ตัวองค์กรเองไปจนถึงพนักงานทุกระดับ
2240 ผู้เข้าชม
สำหรับเจ้าของธุรกิจที่มีการจดทะเบียนเข้าอยู่ในรูปบริษัทแล้ว เมื่อมีรายจ่ายต่างๆ ที่เจ้าของธุรกิจจำเป็นต้องว่าจ้างให้ทำของหรือใช้บริการ ยกตัวอย่าง จ้างฟรีแลนซ์ (บุคคลทั่วไป) ให้ทำเว็บไซต์ ออกแบบกราฟิก จ้างช่างมาซ่อมแอร์ หรือการว่าจ้างบริษัทต่างๆ เช่น บริษัทบัญชี บริษัทออกแบบโฆษณา หรือค่าบริการที่จำเป็นต่างๆ เช่น ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าประกันภัยสินค้า ค่าประกันขนส่ง ค่าเช่าออฟฟิศ ฯลฯ รายจ่ายเหล่านี้ ในฐานะเจ้าของธุรกิจซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างจะมีหน้าที่ต้องหัก ณ ที่จ่าย ของเงินค่าจ้างของผู้ให้บริการออกมาด้วย โดยที่เงินนี้จะไม่ใช่เงินของเรา แต่เป็นเงินที่ต้องนำส่งกรมสรรพากร
5775 ผู้เข้าชม
ปีหน้านี้ (2563) พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ แต่การจัดเก็บภาษีที่จริงๆ จะล่าช้าออกไป 4 เดือน จากเดิมที่ประชาชนต้องชำระภาษี ภายในเดือน เม.ย. 63 เลื่อนไปเป็นเดือน ส.ค. 63 เพราะกฎหมายลูกอีก 8 ฉบับ ยังไม่แล้วเสร็จ
1958 ผู้เข้าชม
สำหรับมนุษย์เงินเดือนซึ่งรับเงินได้ประเภทที่ 1 หรือ เงินได้ตามมาตรา 40(1) นั้น นายจ้างมีหน้าที่ตามกฎหมาย ที่จะต้องประเมินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของลูกจ้างไปล่วงหน้าตลอดทั้งปี จากนั้นจะนำภาษีที่คำนวณได้ตลอดทั้งปีนั้น มาเฉลี่ยเป็น “ต่อเดือน” แล้วจึงทำการหัก “ภาษีเงินได้ หัก ณ ที่จ่าย” ออกจากเงินเดือนของเราในแต่ละเดือน ทำให้เราได้รับเงินเดือนสุทธิน้อยลง
3635 ผู้เข้าชม
Get started for free today. DEMO FREE 60 DAYS
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์