จับผิด!!! การลา การขาดงานของพนักงาน

จับผิด!!! การลา การขาดงานของพนักงาน

อาการแบบนี้เกิดขึ้นกับพนักงานของท่านหรือเปล่า

  • อาการป่วยเป็นนิจ ลากิจเป็นประจำ
  • อาการป่วยการเมือง
  • อาการป่วยจริง
  • ลางานเป็นประจำ หรือ ขาดงานอยู่บ่อยๆ จนหัวหน้าต้องตาม

จะทำอย่างไร? เมื่อพนักงานของท่านขาดงาน
ลักษณะการลางานของพนักงานมีอยู่ไม่กี่ประเภท ทั้งนี้สามารถจำแนกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ใหญ่ คือ

1. ประเภทการลาที่มีการวางแผนการไว้ล่วงหน้า
เช่น การลาพักร้อน  หรือ การลากิจ (ธุระ)   ผู้บังคับบัญชาต้องหาคนมาทำงานแทนคนที่ลาพักร้อน หรือ ลากิจ  ได้ทันท่วงที  ซึ่งจะไม่ส่งผลเสียกับองค์กรมากนัก

2. ประเภทการลาที่เกิดขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วน
เช่น ลาป่วย ซึ่งการลาประเภทนี้ จะส่งผลกระทบต่อองค์กรมากที่สุด
HR หลายๆ คนอาจพบว่า บางครั้งในการลาของพนักงานไม่ได้เกิดขึ้นจริง หรือ เจ็บป่วยจริง แต่เป็นการใช้สิทธิการลาตามที่ได้รับสิทธิจากองค์กร ตามโควตาที่ได้รับตามจำนวนอายุงาน เช่น ลาพักร้อน ได้ 10 วัน  และลาป่วยได้ 20 วัน ลากิจได้ 5 วัน เป็นต้น  ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับระเบียบที่ทางบริษัทกำหนด

ประเด็นใดบ้าง? ที่ HR จะใช้เป็นจุดสังเกตในการจับผิดการลาอย่างมืออาชีพ จับผิดกรณีลาป่วย

ป่วยการเมือง เป็นที่นิยมกับพนักงาน  หากว่าพนักงานคนนั้นเกิดลาบ่อยๆๆ ในช่วงวันหยุด ก็ต้องสังเกตกันว่า “พนักงานคนนั้นป่วยการเมือง” ซึ่งสามารถดูได้จากการ ลาของพนักงาน เช่นกัน  แต่จะมีข้อสังเกตุง่ายๆ ดังนี้

  • ลาในช่วงต่อเนื่องกับวันหยุดประจำปีเป็นประจำ
  • ลาป่วยวันจันทร์ หรือวันสุดท้ายของวันทำงานในสัปดาห์
  • ลาป่วยเพียง 1 – 2 วัน โดยไม่มีใบรับรองแพทย์  (ซึ่งบางคนก็อาจป่วยจริง)

พนักงานบางคน...หัวหมอ มีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายแรงงาน ในกรณีการขาดงานติดต่อกันเกิน 3 วันโดยไม่บอกกล่าวนายจ้าง นายจ้างสามารถ “เลิกจ้าง” ได้ทันที (โดยมีเหตุสมควร) ถือเป็น “การละทิ้งหน้าที่”  ดังนั้น บรรดาลูกจ้างประเภทศรีธนชัย จึงมีการวางแผนเกี่ยวกับวันหยุดมาเป็นอย่างดี เช่น เริ่มหยุดตั้งแต่วันพฤหัสบดี และวันศุกร์  แล้วกลับมาทำงานในวันจันทร์ ตรงจุดนี้ HR จะต้องหาสาเหตุของการขาดงานให้ได้

การเขียนใบลา เป็นการเช็คเกี่ยวกับการลา หรือเป็นการที่พนักงานมารายงานตัว หลังจากหยุดงาน HR จะต้องสอบถามสาเหตุของการลา เพื่อจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมได้ เช่น  อาการป่วยเป็นอย่างไร? บ้าง สอบถามว่าต้องไปหาหมออีกหรือเปล่า เป็นต้น หากทราบว่ามีพฤติกรรมการลาที่ไม่ถูกต้อง ในบางรายอาจให้แสดงใบรับรองแพทย์ทุกครั้งที่ลาป่วย (พวกพนักงานป่วยการเมือง)  มีพนักงานที่เป็นแบบนี้ เช่น  ศุกร์เมา เสาร์นอน อาทิตย์ถอน จันทร์ลา อย่างนี้

หากในกรณีที่พนักงานใช้สิทธิ์ลาป่วยครบ 30 วันแล้ว ให้แจ้งพนักงานว่า หากลาป่วยครั้งต่อไป จะพิจารณาให้ลาโดยมีการกำหนดโทษไว้  หากพบว่าอาการป่วยส่งผลต่อการทำงาน นายจ้างมีสิทธิพิจารณาเลิกจ้าง เนื่องจากพนักงานหย่อนสมรรถภาพในการทำงานได้ โดยจ่ายค่าชดเชย และสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าตามที่กฎหมายกำหนด

ดังนั้น หาก  HR  ได้ทำการจับผิดพนักงานมา ทั้งหมดนี้แล้ว ก็ยังรู้สึกว่ายังเจอกับพนักงานไม่ทำตามคำสั่งหรือ ไม่ทำตามอย่างที่เราต้องการ HR ต้องประกาศให้พนักงานทราบว่า การขาด ลา มาสาย มีผลต่อการขึ้นเงินเดือน และโบนัส หากขาดงานเกินกี่วัน มาสายเกินกี่ครั้ง จะไม่ขึ้นเงินเดือนและตัดโบนัส เป็นต้น  เพื่อให้พนักงานมีความกระตือรือร้นในการทำงานและไม่ขาด ลา มาสายอีก

ที่มา : www.jobdst.com

 16656
ผู้เข้าชม
ทำเว็บธุรกิจ ทําเว็บขายของ ออกแบบเว็บไซต์ เว็บไซต์สำเร็จรูป SoGoodWeb

HR Articles

หากคุณมีลูกเล็กๆ หรือเคยมีประสบการณ์กับการเลี้ยงเด็ก จะพบว่าเด็กเล็กๆ ที่ยังไม่สามารถพูดได้ ก็ต้องการการสื่อสาร พูดคุยเหมือนกัน จริงๆ แล้ว คนเราเกิดมาต้องการการสื่อสารทันทีที่คลอดเลยด้วยซ้ำ ดูได้จาก หากเด็กที่คลอดออกมาแล้วไม่ร้อง หมอจะตีหรือทำทุกวิธีที่ให้เด็กร้องเพื่อปอดจะได้เริ่มทำงาน พอโตขึ้นมาหน่อยก็เริ่มพูดเพื่อสื่อสารให้คนรอบข้างเข้าใจ
2747 ผู้เข้าชม
หากเปรียบง่ายๆ คือ ภาษีเหมือนกับค่าธรรมเนียมค่าเช่าที่สมาชิกทักคนในประเทศจะต้องจ่ายเมื่อใช้ทรัพย์ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทห้างร้านต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในประเทศหรือเป็นพนักงาน ประชาชนทั่วไปที่ใช้ถนน รถไฟ สะพาน สาธารณูปโภคต่างๆ ที่อยู่ในประเทศไทย ซึ่งหากสมาชิกทุกคนร่วมกันใช้ทรัพยากรหรือสาธารณูปโภคนั้นๆ แล้วก็ต้องช่วยกันจ่ายเงินบำรุงทรัพยากรนั้นสามารถใช้ประโยชน์ได้ต่อไปในอนาคต หรือนำเงินที่เรียกเก็บแต่ละคนในแต่ละปีนำไปพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ด้วยเหตุนี้ ภาษีจึงมีความสำคัญกับประเทศอย่างมาก
41062 ผู้เข้าชม
ในช่วงหนึ่งปัญหาใหญ่ขององค์กรต่างๆ คือ “หาคนเก่งยาก” จึงทำให้เกิดธุรกิจนายหน้าสรรหาคลากรหรือที่เรียกกันว่า Head Hunter หรือ Recruitment Agency เยอะแยะมากมาย ซึ่งก็พอช่วยทำให้ปัญหาการหาคนเก่งลดลงไปได้ระดับหนึ่ง นอกจากนี้ความทันสมัยของเทคโนโลยีอินเตอร์ที่ทำให้คนทำงานเข้าถึงองค์กรและองค์กรเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการทำได้ง่ายขึ้น ปัญหาการหาคนเก่งให้เจอจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
1751 ผู้เข้าชม
แนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคต การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศในคริสต์ศตวรรษที่21มีแนวโน้มที่จะพัฒนาคอมพิวเตอร์ให้มี ความสามารถใกล้เคียงกับมนุษย์ เช่น การเข้าภาษาสื่อสารของมนุษย์ โครงข่ายประสาทเทียม ระบบจำลอง ระบบเสมือนจริง โดยพยายามนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากขึ้นลดข้อผิดพลาดและป้องกันไม่ให้นำไป ใช้ในทางที่ไม่ถูกต้องหรือผิดกฎหมาย แนวโน้มในด้านบวก • การพัฒนาเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมโยงกันทั่วโลก ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ช่องทางการดำเนินธุรกิจ เช่น การทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การผ่อนคลายด้วยการดูหนัง ฟังเพลง และบันเทิงต่างๆ เกมออนไลน์ • การพัฒนาให้คอมพิวเตอร์สามารถฟังและตอบเป็นภาษา พูดได้ อ่านตัวอักษรหรือลายมือเขียนได้ การแสดงผลของคอมพิวเตอร์ได้เสมือนจริง เป็นแบบสามมิติ และการรับรู้ด้วยประสาทสัมผัส เสมือนว่าได้อยู่ในที่นั้นจริง • การพัฒนาระบบสารสนเทศ ฐานข้อมูล ฐานความรู้ เพื่อพัฒนาระบบผู้เชี่ยวชาญและการจัดการความรู้ • การศึกษาตามอัธยาศัยด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-learning) การเรียนการสอนด้วยระบบโทรศึกษา (tele-education) การค้นคว้าหาความรู้ได้ตลอด 24 ชั่วโมงจากห้องสมุดเสมือน (virtual library) • การพัฒนาเครือข่ายโทร คมนาคม ระบบการสื่อสารผ่านเครือข่ายไร้สาย เครือข่ายดาวเทียม ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ ทำให้สามารถค้นหาตำแหน่งได้อย่างแม่นยำ • การบริหารจัดการภาครัฐสมัยใหม่ โดยการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและเครือข่ายการสื่อสารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการ ดำเนินการของภาครัฐที่เรียกว่า รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-government) รวมทั้งระบบฐานข้อมูลประชาชน หรือ e-citizen
164823 ผู้เข้าชม
Get started for free today. DEMO FREE 60 DAYS
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์