การแบ่งประเภทพนักงาน ตามขีดจำกัดความสามารถ

การแบ่งประเภทพนักงาน ตามขีดจำกัดความสามารถ



วันนี้คุณในฐานะผู้บริหาร ผู้จัดการ หัวหน้างาน ซึ่งมีทีมงานอยู่ภายในการปกครองจำนวนหนึ่ง คุณเคยวิเคราะห์ผู้ใต้บังคับบัญชาในแต่ละคนหรือไม่ ว่าแต่ละคนนั้นอยู่ในช่องไหนของตาราง ถ้าคุณสามารถจัดได้ตามช่องอย่างชัดเจนแล้วการพัฒนาเขาเหล่านี้ก็ต้องใช้วิธีที่แตกต่างกัน ดังนี้

                                                      

                            อธิบายแนวความคิดด้วยภาพ

                       

1. คนที่สามารถและเต็มใจในการทำงาน
คุณต้องคอยท้าทายให้เขาทำงานที่ยากขึ้นไปเรื่อยๆครับ เพราะคนกลุ่มนี้จะมีความทะเยอทะยานสูง อยากจะเติบโตจึงจะทุ่มเทศักยภาพของตัวเองเต็มที่ในหน้าที่รับผิดชอบ ถ้าเขาทำได้ดีจริงๆ เราก็คงต้อง Promote เขาครับ

2. คนที่มีความสามารถในงานแต่ไม่ค่อยเต็มใจทำงานเท่าไรนัก
คุณต้องค้นหาสาเหตุที่เขาไม่ค่อยได้ใช้ศักยภาพของตัวเองทั้งๆที่เขาทำได้ อาจกำลังเรียกร้องอะไรอยู่ก็ได้ คุณควรทำหน้าที่ในฐานะโค้ชเพื่อดึงศักยภาพของเขาออกมาโดยกระตุ้นให้เขาเห็นประโยชน์ของการ กระทำหน้าที่ให้ดีอย่าทำให้ตัวเองดูแย่ เพราะไม่ยอมทำงานให้ดีเลย

3. คนที่ไม่มีความสามารถแต่มีความในการทำงานนั้น
คนลักษณะนี้ถ้าคุณให้โอกาสเขาได้เรียนรู้เพิ่มเติมโดยการอบรม (training) หรือ On the job training สักระยะหนึ่งเชื่อแน่ว่าเขาจะสามารถทำงานชิ้นนั้นได้สำเร็จและเราก็จะได้ บุคคลที่กลายเป็น ช่อง1มากขึ้นเรื่อยๆครับ

4. คนที่ไม่มีความสามารถและยังไม่ตั้งใจทำงาน
องค์กรใดมีบุคลากรอยู่ในกลุ่มนี้มากเท่าใดองค์กรนั้นก็จะลำบากมากเท่านั้น ดังนั้นคุณในฐานะหัวหน้างาน ควรพัฒนาเขาให้มากหน่อยแต่ก็ต้องกำหนดบทลงโทษไว้ด้วยว่า ถ้าเขาไม่พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นก็ต้อยอมรับผลการกระทำไปด้วย

ตารางนี้สามารถที่จะทำให้เราบริหาร จัดการทีมงานได้ดีขึ้น เพราะแต่ละวิธีจะเหมาะกับแต่กลุ่มบุคคล ดังนั้นควรประเมิน ทีมงานอยู่อย่างสม่ำเสมอว่าเขาเหมาะกับตำแหน่งงานหรือไม่ เพราะทุกช่องเราก็ต้องช่วยพัฒนาเขาอยู่แล้วทำบ่อยๆก็จะแม่นย้ำขึ้นครับ

ที่มา : www.entraining.net

 1786
ผู้เข้าชม
ทำเว็บธุรกิจ ทําเว็บขายของ ออกแบบเว็บไซต์ เว็บไซต์สำเร็จรูป SoGoodWeb

HR Articles

1.ไม่เป็นไร ผิดพลาดกันได้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ทำงานผิดพลาดแล้วยังจะมานั่งโทษตัวเองให้เหนื่อยทำไม ให้กำลังใจตัวเองเพื่อทำงานชิ้นต่อไปดีกว่า ยิ่งเรามัวจมกับความผิดพลาดเดิม ๆ เราก็จะทำงานอื่นต่อไม่ได้ สู้เอาความผิดพลาดมาทำให้ถูกต้องในงานชิ้นใหม่ดีกว่า สัจธรรมของชีวิตที่ต้องจำไว้อย่างหนึ่งก็คือ ไม่มีใครจำเรื่องของคนอื่นนานหรอก ถึงใครจะว่าเรามากมายแค่ไหน แต่พอเดินพ้นหน้าเราไปเขาก็ต้องคิดเรื่องอื่นแทน แล้วเราจะมาลงโทษตัวเองอยู่ทำไม 2.งานไม่ได้หนักทุกวันสักหน่อย เดี๋ยวก็ได้พักแล้ว เวลางานล้นมือเราอาจท้อ แต่ท้อไปงานก็ไม่เสร็จ ลุกมาทุ่มเททำให้เสร็จ ๆ ไปดีกว่า เหนื่อยแค่ไหนเดี๋ยวก็ได้พัก และสิ่งที่เราต้องทำเมื่องานเยอะ คือจัดระเบียบเส้นตายของงานแต่ละชิ้น เจรจาต่อรองถ้าคิดว่าจะไม่เสร็จตรงเวลา แล้วก็ค่อย ๆ ทำไปทีละงาน เดี๋ยวดีเอง 3.ถึงจะไม่เก่งงานนี้ แต่เราก็พยายามเต็มที่แล้ว บ่อยครั้งที่เราได้รับมอบหมายงานที่ไม่ถนัด ก็คิดเสียว่าไม่เป็นไร ทำให้เต็มที่ แต่ก่อนทำก็บอกคนที่มอบหมายหน่อยว่าไม่ค่อยถนัดนะ แต่จะทำเต็มที่ ผิดพลาดอะไรก็บอกได้ เขาจะได้ไม่คาดหวังมาก แต่ถ้าทำออกมาแล้วดีก็ถือเป็นกำไร อย่าเสียใจที่ทำงานบางประเภทไม่เก่ง เพราะเราก็อาจจะเก่งในงานประเภทอื่นก็ได้ จำไว้ว่าปลาอาจจะว่ายน้ำเก่งกว่าลูกสุนัข แต่ปลาก็วิ่งไม่ได้เหมือนกัน ถ้าปลาตัวหน่งจะโดดขึ้นมาบนบกแล้วคืบคลานจนถลอกปอกเปิกก็คงไม่มีใครว่าอะไร เพราะมันเป็นปลาจริงไหม
1250 ผู้เข้าชม
เงินเดือนเท่าไหร่ต้องเสียภาษี? เป็นอีกหนึ่งคำถามที่หลายคนสงสัยอยู่บ่อยๆ ถึงกับขั้นไปค้นหาใน Google กันจนฮิตติดกระแส แต่ความเป็นจริงแล้วมีหลักการคิดแบบนี้จ้า
1064 ผู้เข้าชม
สิทธิและหน้าที่ของผู้เสียภาษี สำหรับผู้เสียภาษีทุกท่านการรู้สิทธิ์และหน้าที่ของตัวเองในเรื่องของภาษีเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้เราทราบถึงสิทธิ์ต่างๆ ด้านภาษีและหน้าที่ของเราที่ต้องปฎิบัติให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายด้านภาษี เพื่อดำเนินการได้อย่างถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อตัวเราเอง
2706 ผู้เข้าชม
ใกล้สิ้นปีแล้วรื่องการประเมินผลการทำงานของพนักงานว่า บริษัทต่าง ๆ ในโลกตอนนี้เขาทำอย่างไรกันบ้าง อะไรเป็นเทรนด์ยอดฮิต แนวโน้มตอนนี้จะมีความเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมากจากระบบการประเมินแบบปัจจุบันคือ การให้คะแนนตาม KPIs และไปลิงก์กับการให้โบนัส ขึ้นเงินเดือนอย่างไร
2960 ผู้เข้าชม
Get started for free today. DEMO FREE 60 DAYS
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์