ความสุข 3 อย่าง สร้างได้

ความสุข 3 อย่าง สร้างได้


      ผมได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ 
ความสุข 3 อย่างสร้างได้ให้กับพนักงานของสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เมื่อเร็ว ๆ นี้ชื่อ ความสุข 3 อย่างสร้างได้นี้ เป็นชื่อหนังสือที่ผมเขียนวางจำหน่ายเมื่อเร็ว ๆ นี้และกำลังขายดี

      ผมดีใจที่เห็นหน่วยงานต่าง ๆ สนใจในการสร้าง ความสุข ให้แก่พนักงาน มากกว่าการพยายามให้พนักงานทำงานเต็มกำลังเพื่อ ความสำเร็จ อย่างเดียวซึ่งจะทำให้พนักงานเกิดความล้า เครียด พลังสมองในการจะสร้างสรรค์งานต่าง ๆ ก็จะน้อยลง

      แต่ถ้าพนักงานมีความสุขจากชีวิตประจำวันจากการทำงานได้แล้ว เขาจะเกิดพลังสมองในการจะสร้างสรรค์งานให้ลุล่วงด้วยดี มีประสิทธิภาพมากขึ้น

      ระยะหลัง ๆ นี้ผมสนใจเรื่องความสุข รวมทั้งวิธีทำหรือคิดให้เกิดความสุขของมนุษย์มากกว่าวิธีทำให้เขาประสพความสำเร็จเพราะเชื่อว่าคนที่มุ่งหาความสำเร็จนั้นจะเครียดและเป็นทุกข์มากขึ้น

      ความสำเร็จของมนุษย์สามารถวัดเป็นตัวเลขได้ ซึ่งได้มาเท่าไรก็ไม่เคยพอ เวลานำไปเปรียบเทียบกับคนอื่น (ที่มีมากกว่า) แล้วก็มักจะคิดว่าตัวเองได้น้อยไป ทำให้เกิดความไม่พอใจและเป็นทุกข์

      ทั้ง ๆ ที่ความสำเร็จที่เขาได้รับนั้นก็มีมากพอแก่การดำรงชีวิตได้อย่างดีแล้วความสำเร็จสามารถวัดเป็นปริมาณและตัวเลขได้ เช่น

      ความสำเร็จทางการศึกษา : วัดโดยจำนวนและระดับของปริญญาบัตร เช่น ปริญญาตรี โท เอก  กี่ใบ

      ความสำเร็จทางการเงิน : วัดโดยตัวเลขเงินฝากในธนาคาร จำนวนบ้าน รถยนต์ ทรัพย์สินอื่น ๆ

      ความสำเร็จทางชื่อเสียงเกียรติยศ : วัดโดยตำแหน่งหน้าที่การงาน ทางสังคม

      ความสำเร็จทางเซ็กซ์ : วัดโดยจำนวนครั้งหรือจำนวนคู่ร่วมกิจกรรมทางเพศ  ฯลฯ

      ถ้าเราเน้นให้คนมุ่งแต่ความสำเร็จ เขาจะมุ่งแต่ความสุขทางกายหรือกามสุข  คือมุ่งหาเงิน (Money) อำนาจ (Power) ตำแหน่ง (Position) และเซ็กซ์ (Sex)

      ทุกครั้งที่มุ่งเข้าหาจะเกิดความอยากได้ เมื่อได้มาแล้วก็ไม่เคยพอ ยังอยากหาต่อไป เกิดอาการของความเครียด สารของความเครียดจะหลั่งตลอดเวลา

      แต่ถ้าเราฝึกให้คนคิดถึงความสุขแบบอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย เช่น ความสุขใจ และความสุขทางจิตวิญญาณ เขาจะมุ่งความสุขทางกามน้อยลง ชีวิตจะมีสมดุลมากขึ้น

      ความสุขทางใจ ได้แก่ การมีความรักและมิตรภาพกับตนเองและกับเพื่อนมนุษย์

      เราต้องเปิดใจกว้าง มองโลกทางบวก จะเห็นความดีของตนเองและของคนอื่น อยากเป็นมิตรกับตัวเองและคนอื่นได้อย่างสนิทใจ


      ทุกวันนี้ถามจริง ๆ เถิดว่า มีสักกี่คนที่รู้จักเป็นมิตรกับตนเองได้จริง ๆ (ในทุกสถานภาพ) และอยากเป็นมิตรกับคนอื่นได้จริง ๆ (ในทุกสถานภาพ)

      ส่วนมากจะไม่ชื่นชมตัวเองยามตกต่ำ และเป็นมิตรกับคนอื่นเพราะหวังผลประโยชน์

      ความสุขใจจึงไม่เกิด เกิดแต่ความรู้สึกต่ำต้อย แข่งขัน เอาเปรียบ เอาประโยชน์ ตำหนิ จับผิด โกรธและโทษ

      เราจึงหามิตรภาพในสังคมไม่ได้เลย แม้ขณะนี้ก็มีความแตกแยกอย่างรุนแรง มีการแบ่งสีกันอย่างชัดเจนและลงลึก เพราะเราไม่รู้จักสร้างมิตรภาพและความรัก เรารู้แต่วิธีทำลายมิตรภาพและความรัก

      ส่วนความสุขทางจิตวิญญาณนั้น ก็ต้องรู้จักทำความดี เพื่อให้จิตวิญญาณมีวุฒิภาวะและเจริญเติบโต สามารถเกิดความหวังที่ดี ๆ ได้ในทุก ๆ สถานภาพ มองว่าตัวเองสามารถกำหนดชะตาชีวิตของตนเองได้ด้วยการทำความดี ซึ่งจะทำให้ตนเองมีความเจริญ มีสภาพชีวิตและจิตใจดีขึ้น สังคมก็ดีขึ้น เพราะต่างทำความดีเข้าหากัน

      ผมเขียนบทความวันนี้เพราะอยากเตือนสติเพื่อนมนุษย์ทั้งหลาย ที่กำลังหัวซุนเดินเซกับการทำงานหามรุ่งหามค่ำ ไม่มีเวลานึกถึงความสุขทางใจและความสุขทางจิตวิญญาณเลย มุ่งหาแต่ความสำเร็จหรือความสุขทางกาย (หรือกาม) เท่านั้น

      สติ : เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ยิ่งใช้มากยิ่งเจริญมาก ต้องฝึกให้มีใช้ตลอดไปจนถึงวันตาย

      เงิน : ก็สำคัญ แต่ยิ่งใช้ยิ่งหมด

      ธรรมะ : ยิ่งใช้ยิ่งมีมาก

      ปัญญา : ยิ่งใช้ยิ่งมีมากขึ้น

      วันนี้คงจะมีบางคนเกิดสติและใช้ปัญญาให้ถูกทาง อยากทำชีวิตให้มีความสุขทางจิตใจและจิตวิญญาณมากขึ้น เพื่อให้เกิดความสมดุลของชีวิต  ไม่ใช่ก้มหน้าก้มตาไขว่คว้าความสำเร็จอย่างเดียวจนรู้สึกเหนื่อยแสนเหนื่อย เหมือนเฆี่ยนม้าที่เหนื่อยแล้วให้เดินต่อไป  ไม่ตาย ก็ เหมือนตาย แน่ ๆ

 2310
ผู้เข้าชม
ทำเว็บธุรกิจ ทําเว็บขายของ ออกแบบเว็บไซต์ เว็บไซต์สำเร็จรูป SoGoodWeb

People Management

ไม่พบรายการที่คุณค้นหา
Get started for free today. DEMO FREE 60 DAYS
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์