หลังจากที่เราได้กล่าวถึงการเตรียมต่อก่อนการสัมภาษณ์งานไป บ้างแล้วว่าจะต้องมีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการรู้จักตนเอง รู้ถึงจุดเด่น ความสามารถ หรือทักษะต่างๆ และสามารถที่จะวิเคราะห์บริษัทนั้นได้พอสมควร ซึ่งคุณคิดว่าเรื่องต่างๆ เหล่านี้ทำให้เขาประทับใจคุณไม่มากก็น้อย แต่ก็มีอยู่สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุด เพื่อที่จะเตรียมตัวได้อย่างถูกต้องมากขึ้น คือ แนวทางของคำถามในระหว่างการสัมภาษณ์ รวมถึงแนวการตอบคำถามที่จะทำให้คุณได้เปรียบในการได้รับเข้าทำงาน เพราะฉะนั้นในบทนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องเหล่านี้กัน เพื่อให้รู้ถึงคำถาม คำตอบ ตลอดจนวิธีการถามผู้สัมภาษณ์ถึงสิ่งที่คุณยังสงสัย รวมทั้งพฤติกรรมหลังการสัมภาษณ์เพื่อความมั่นใจมากขึ้น
เริ่มจากประเภทคำถาม เมื่อถึงเวลาที่คุณเข้ามานั่งต่อหน้าผู้สัมภาษณ์ คุณต้องพยายามสงบสติอารมณ์ และควรที่มีความเป็นธรรมชาติ ยิ้มแย้มแจ่มใส และพยายามดูว่าเขาสนใจและชอบคำถามประเภทไหน เพื่อว่ามีเวลาที่เราต้องตอบสนองเขา เราอาจจะมุ่งไปประเด็นที่เขาสนใจ ซึ่งจะทำให้บรรยากาศการสัมภาษณ์ไม่ตึงเครียดและคุณอาจจะให้ข้อคิดเห็นในการ ตอบคำถาม ไม่ใช่เพียงแค่ตอบว่าใช่ หรือไม่ใช่ ชอบ หรือไม่ชอบ ซึ่งต้องเป็นประโยชน์ที่ครอบคลุมในสิ่งที่เขาถามและไม่ควรพูดยาวเกินไป หากไม่เข้าใจในคำถามก็ควรที่จะขอให้เขาอธิบายอีกครั้ง เพราะดีกว่าการตอบแบบไม่ตรงประเด็น แม้ผู้สัมภาษณ์มีความแตกต่างกันในแต่ละบริษัท แต่สิ่งที่ผู้สัมภาษณ์ต้องการเห็นคือ ความกระตือรือร้นที่จะได้คนมีคุณภาพ และเหมาะสมที่จะนำเข้ามาภายในองค์กร
อีกสิ่งที่เขาต้องการรู้ก็คือ ประวิติความเป็นมา ในเรื่องของชีวิตความเป็นอยู่ การศึกษา สถานะครอบครัว กิจกรรมทางสังคม เหล่านี้ การตอบจึงอาจตอบข้อเท็จจริง ซึ่งส่วนหนึ่งจะต้องมีอยู่ในเอกสารประวัติย่อของคุณอยู่แล้ว ซึ่งแนวการตอบก็ควรที่จะเป็นการดึงประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อง หรือมีผลต่อการสมัครงาน มากกว่าที่จะเล่นรายละเอียดตั้งแต่เกิด ซึ่งการตอบอะไรก็ตามที่ไม่ตรงคำถาม และตอบไปก็ไม่เกิดประโยชน์ใดๆ ขึ้นคุณก็ไม่ควรที่จะต้องเล่าหรือตอบออกไป โดยความจริงของคำถามเหล่านี้ไม่ยากในการตอบเพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณย่อมรู้ดีกว่าคนอื่นอยู่แล้ว ซึ่งคุณเพียงแค่ต้องระวังไว้ว่าจุดไหนควรพูดและไม่ควรพูด
คำถามเกี่ยวกับการเรียนมักจะเป็นคำถามที่เกี่ยวกับการเรียนต่างๆ เช่น มีผลการเรียนอย่างไร ทำไมเลือกเรียนสาขานี้ วิชาไหนที่ชอบ-ไม่ชอบในสมัยเรียนและเหตุผล โดยทั่วไปผู้ที่มีผลการเรียนดีนั้นจะได้เปรียบกว่าผู้อื่น เพราะบางบริษัทได้กำหนดไว้ว่าผู้สมัครต้องมีเกรดเฉลยเท่าไหร่จึงจะรับ หรือถ้าคุณมีเกรดต่ำกว่าที่กำหนดไว้บ้าง แต่คุณเด่นในเรื่องของกิจกรรม เขาอาจมองคุณเป็นคนที่มีความมนุษย์สัมพันธ์ดี ความกล้าแสดงออก แทนที่จะมองผลการเรียนของคุณ
ทำไมจึงอยากทำอาชีพนี้? เป็นคำถามที่มุ่งถึงความต้องการทราบในเรื่องของแรงบันดาลใจ หรือแรงจูงใจในการเข้ามาประกอบอาชีพของคุณผู้ถามอาจจะเป็นผู้ที่มี ประสบการณ์การทำงานด้านนี้มาก่อน และได้รู้ถึงความตื้นลึกหนาบางของอาชีพ และคงชอบอาชีพนี้ ซึ่งต้องการสำรวจความตั้งใจจริงของคุณก็ได้ ซึ่งคำตอบที่ต้องการนั้นต้องการคำตอบทางด้านบวกที่เกี่ยวกับทัศนคติที่มีต่ออาชีพนี้
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้น่าจะทำให้พอเข้าใจแล้วว่า ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นแม้ว่ามีเงื่อนไขบางประการที่คุณคิดว่ามันเป็นเงื่อนไข ที่คุณไม่สามารถผ่านไปได้นั้น มันอาจเป็นสิ่งที่ยืดหยุ่นได้เสมอ อย่าไปมองอะไรที่มันแคบๆ จะทำให้คุณเสียโอกาสโดยเปล่าประโยชน์ เพราะฉะนั้นหากคุณยังขาดในคุณสมบัติที่เขากำหนด ก็ให้ใช้ทักษะในการโน้มน้าวให้เห็นว่า แม้คุณจะมีคุณสมบัติไม่ครบตามที่เขาต้องการ แต่คุณก็มีสิ่งอื่นมาทดแทนได้
ที่มาpantip