บทบาทอย่างหนึ่งที่สำคัญของ HR คือการดูแลรักษา พัฒนาพนักงานให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผลสูงสุด บางทีคนนิสัยดี ฝีมือดี ปฏิบัติตัวตามกฎระเบียบเสมอมา ก็ทำตัวมีปัญหาขึ้นมาได้เหมือนกัน ร้อนถึง HR ต้องเข้ามาแสดงบทบาทสำคัญในการค้นหาสาเหตุที่มาที่ไปให้พบโดยเร็ว เพื่อคิดหาวิธีกสนแก้ไขและสร้างพนักงานที่มีคุณภาพ คอยตบคอยแต่งคอยดึงให้เขากลับมาเข้ารูปเข้ารอยตามแนวทางของบริษัท และทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างราบรื่นตามเดิม
ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำสำหรับ HR ที่กำลังเผชิญกับปัญหาเช่นนี้อยู่
เชื่อว่าพฤติกรรมนั้นมีที่มาที่ไปเสมอ ข้อนี้อยู่ที่ความคิดของคุณเป็นสำคัญ คุณต้องมีความ “เชื่อ” เสียก่อนว่าเขามีเหตุผลที่สมควร ไม่อย่างนั้นตัวคุณเองก็จะปิดใจ ทำให้ไม่สามารถรับฟังเขาได้อย่างเต็มที่ และไม่สามารถคลี่คลายปัญหาได้อย่างแท้จริง เมื่อคุณพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือเขา คุณเพียงพูดคุยกับเขาถึงความห่วงใยที่คุณมีต่อเขา บอกเขาว่าคุณพร้อมที่จะรับฟังและช่วยแก้ไขปัญหาถ้าเขาต้องการ เพื่อให้เขาเล่าปัญหาเหล่านั้นให้คุณฟัง
รับฟังปัญหาของพวกเขา เพราะบางครั้งการที่เขาแสดงออกทางความคิด หรือพฤติกรรมเชิงลบ อาจเป็นเพราะเขารู้สึกว่าเพื่อนร่วมงาน หรือหัวหน้างานไม่ได้ให้ความสำคัญกับเขา สิ่งที่เขาคิด สิ่งที่เขาทำ ไม่มีใครสนใจ ไม่มีใครยอมรับการรับฟังอย่างตั้งใจ ไต่ถามเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา จะทำให้ปัญหาถูกคลี่คลายได้ตรงจุด
แนะนำวิธีแก้ไข ในระยะสั้นแก่เขา ให้เขารู้สึกผ่อนคลายจากความเครียด ความไม่พอใจต่างๆ ส่วนในระยะยาวคงต้องใช้เวลา ลองแนะนำให้เขาอ่านหนังสือดี ๆ เกี่ยวกับข้อคิดในการทำงาน การสร้างความสุขในการทำงาน หรือหาโอกาสให้เขาได้เข้ารับการอบรมสัมมนา เพื่อให้เขามีมุมมองใหม่ ๆ ในการทำงาน และเลือกที่มองสิ่งต่าง ๆ ตลอดจนแสดงออกถึงพฤติกรรมเชิงบวกแทน
กำหนดขอบเขตแต่พอเหมาะ บางครั้งเขาอาจต้องการแค่ได้ระบายให้ใครสักคนที่พร้อมจะรับฟัง เขาอาจไม่ได้ต้องการคำแนะนำ หรือความช่วยเหลือใด ๆ สิ่งที่คุณควรทำในฐานะHR ก็คือการรับฟัง ซึ่งมันเป็นหน้าที่ของคุณอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ควรมีการกำหนดขอบเขตไว้บ้าง อย่าปล่อยให้เขาระบายความในใจเสียจนยืดยาวเกินไป จนคุณอาจถูกดึงดูดด้วยทัศนคติในเชิงลบของเขา ควรดึงเขากลับมาพูดเรื่องที่ดี ๆ ในเชิงบวกเมื่อเห็นเขาเริ่มจะพูดเยอะจนเกินไปแล้ว
ถ้าสิ่งที่เขาทำเกิดจากเหตุผลที่ไม่สมควร พยายามบอกเขาว่าคุณมีความคิดเห็นกับเรื่องนี้ยังไง คุณรู้สึกเป็นห่วงเขา แต่คุณก็ไม่เห็นด้วยกับความคิดพฤติกรรมของเขา เขาอาจพยายามทำให้คุณรู้สึกเห็นอกเห็นใจ แต่ถ้าคุณคิดว่าสิ่งที่เขาทำไม่ถูกต้อง อย่าเสียเวลาฟังหรือพยายามเข้าอกเข้าใจเขา เพราะจะเป็นการส่งเสริมให้เขายิ่งแสดงพฤติกรรมอย่างนั้นเพิ่มขึ้นอีก และหากคุณปล่อยให้เขาทำอย่างนั้นเรื่อยไป จากพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเป็นบางกรณีก็จะกลายเป็นนิสัยถาวรที่ยากเกินเยียวยา ก่อปัญหาอื่น ๆ ตามมาอย่างไม่หยุดหย่อน ซึ่งทำให้ HR ต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่านัก
สิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้จากเหตุการณ์เช่นนี้ก็คือ พนักงานทุกคนต้องการได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง ดังนั้นจึงไม่ควรปล่อยให้พวกเขาเกิดความคับข้องใจ หรือเกิดทัศนคติที่ไม่ดีต่อการทำงานหรือต่อองค์กร HR ที่ดีจะต้องเป็นคนช่างสังเกต และรีบเข้าไปแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้พวกเขา สร้างความสุขในการทำงานให้แก่พนักงาน องค์กรใดก็ตามพนักงานเกิดความคับข้องใจ พวกเขาจะทำงานได้ไม่เต็มที่ และทำให้เกิดผลเสียต่อการทำงานตามมา ในทางตรงกันข้ามองค์กรที่พนักงานมีความสุขในการทำงาน จะเป็นแรงผลักดันให้พวกเขามีไฟ มีไอเดียแปลกใหม่สร้างสรรค์ ซึ่งจำเป็นมากในโลกธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงอย่างในปัจจุบัน พนักงานที่มีปัญหามีอีกหลายรูปแบบทั้งพฤติกรรมเปลี่ยนไป หรือเริ่มมีแววส่อเค้าทุจริตจะจัดการอย่างไร อ่านเพิ่มเติม:วิธีจัดการกับพนักงานที่ส่อเค้าทุจริต
