ออกกำลังกายตอนเช้า ในแต่ละวันควรตั้งนาฬิกาปลุกก่อนเวลาตื่นจริงสัก 10-15 นาที เพื่อการออกกำลังกายบนเตียงด้วยท่าง่ายๆ ถือเป็นการยืดเส้นยืดสายปลุกร่างกายให้ตื่นมารับกับการทำงานของวันใหม่ ท่าบริหารร่างกายง่ายๆ เช่น ซิตอัพบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง ยกขาขึ้นลงเพื่อบริหารกล้ามเนื้อขาและสะโพก
คิดแต่สิ่งดีๆ ขณะกำลังออกกำลังกายอยู่ก็ควรคิดถึงแต่สิ่งที่ดีๆ ที่กำลังจะเผชิญในแต่ละวัน ที่สำคัญเตือนใจอยู่เสมอว่า ควรคิดดี ทำดี และพูดดี จากนั้นก็คิดรวบรวมสติว่าวันนี้ต้องทำอะไรบ้าง
อาบน้ำชำระร่างกาย หากมีเวลาน้อยควรอาบน้ำด้วยสบู่กลิ่นหอมๆ ที่ช่วยให้รู้สึกสดชื่น แต่ถ้ามีเวลามากพอควรสระผมให้ศีรษะโล่งปลอดโปร่ง จากนั้นพิถีพิถันในการเลือกแต่งตัวให้สวยหล่อเหมาะกับกาลเทศะ การแต่งตัวสวยๆ หล่อๆ จะช่วยให้เกิดความมั่นใจ อยากไปทำงานและสนุกกับการพบปะผู้คน
รับประทานอาหารเช้าเต็มอิ่ม ตามหลักโภชนาการ มื้อเช้าเป็นอาหารมื้อที่สำคัญที่สุด แต่ส่วนใหญ่จะถูกละเลยอาหารที่ดีและมีประโยชน์ เช่น กลุ่มอาหารจำพวกข้าวและแป้ง เช่น ขนมปังโฮลวีต มัน เผือก ข้าวกล้อง ข้าวโพดต้ม ผัก ได้แก่ ผักสด ผักนึ่ง ผักใบเขียว ผลไม้สด เช่น ส้ม ชมพู่ ผรั่ง แคนตาลูป มะละกอ แอปเปิล เนื้อสัตว์จำพวก เนื้อปลา ไข่ขาว กุ้ง เนื้อไก่ต้มไม่ติดหนัง เครื่องดื่ม น้ำผลไม้ปั่นไม่ใส่น้ำตาล น้ำเปล่า ชาจีน หรือน้ำสมุนไพรไม่เติมน้ำตาล หากเป็นอาหารสำเร็จรูป ได้แก่ อาหารสำเร็จรูปประเภทต้ม นึ่ง ลวก ยำ อบ ตุ๋น อย่าลืมกองทัพเดินด้วยท้อง!
เดินทางไปทำงานด้วยอารมณ์ปลอดโปร่ง ระหว่างทางพยายามอย่าโกรธ ให้อภัยเพื่อนร่วมทางบนท้องถนน เพราะการที่อารมณ์เสียบนท้องถนนอาจติดมาเวลาทำงานได้ ยิ่งทำงานให้บริการด้วยแล้ว การควบคุมอารมณ์ถือเป็นสิ่งสำคัญ
ทำงานอย่างตั้งใจและขยันขันแข็ง ยิ้มทักทายเพื่อนที่ทำงาน แล้วก็เริ่มทำงานด้วยหัวใจที่ปลอดโปร่ง
ชีวิตหลังเลิกงาน พยายามทำงานให้เสร็จทันกำหนดเวลา ภายในเวลาทำงาน จะได้มีเวลาออกไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ หรือหาเวลาออกกำลังกายเพื่อเป็นการเสริมสร้างสุขภาพที่แข็งแรง สมบูรณ์ อีกทั้งเป็นการผ่อนคลายเรื่องการงานที่ผจญมาทั้งวัน ควรเลือกสถานออกกำลังกายใกล้ๆ ที่ทำงานมากกว่าใกล้บ้าน เพราะหากทำงานไกลจากบ้านกว่าจะขับรถผ่านจราจรที่คับคั่งก็เหนื่อยเพลียเกิน กว่าจะมาออกกำลังกาย ออกกำลังกายเสร็จ รับประทานอาหารแต่พอดี มากเกินไปร่างกายจะสะสมพลังงานกลายเป็นไขมัน
เข้านอนแต่หัวค่ำ หากเป็นไปได้ควรเข้านอนแต่หัวค่ำ ไม่เกิน 4 ทุ่ม เพราะร่างกายจะซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในเวลาที่หลับลึกจริงๆ ซึ่งอยู่ประมาณตีสองถึงตีสาม แต่บางคนมีปัญหาเรื่องการนอนหลับ เพราะอาจเป็นคนที่เครียดง่าย ส่งผลต่อการนอนที่หลับยาก บางครั้งมีอาการฝันร้ายตอนกลางคืนอีก บ้างไม่สามารถปล่อยวางและลดความเครียดได้ ลองหาซื้อน้ำหอมที่มีกลิ่นบำบัด หรืออโรมาเทอราปี จะเป็นกลิ่นของสมุนไพร หรือกลิ่นหอมของดอกไม้มาจากแถบยุโรปก็ได้ แต่เลือกให้เหมาะกับตัวเอง ลองฉีดบนเครื่องนอนก่อนเข้านอนสัก 10-20 นาที แล้วค่อยเข้านอน จะพบว่านอนหลับสนิทได้ง่ายขึ้น
เมื่อร่างกายได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ เมื่อตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ ก็จะรู้สึกร่างกายสดชื่น มีกำลังที่จะทำสิ่งต่างๆ รอบตัวด้วยความกระปรี้กระเปร่า
ที่มา : www.manager.co.th
