ปรับตัวให้เข้ากับงานที่(ไม่)ถูกใจ

ปรับตัวให้เข้ากับงานที่(ไม่)ถูกใจ


     Post Today - จะว่าไปก็มีคนอยู่จำนวนไม่น้อยที่ได้ทำงานในสิ่งที่ตัวเองชอบ ชนิดว่าถูกใจใช่เลย นี่แหละฉัน!! เรียกว่าเรียนจบมาโดยตรงทางด้านไหนแล้วก็ได้มีโอกาสใช้วิชาความรู้นั้นชนิด เต็มความสามารถ แล้วก็ไม่รู้สึกเบื่อหน่ายกับงานที่ทำแม้แต่น้อย มีแต่จะเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ไอเดียบรรเจิดตลอดเวลา เพราะกลุ่มคนพวกนี้ถือว่างานเป็นใหญ่ อาจจะเพราะถูกสายอาชีพทำให้รู้สึกว่างานตนเองมีค่าและยิ่งใหญ่เสมอใน สายตาตนเอง รวมถึงสายตาคนรอบข้างที่ภูมิใจกับงานของตนเอง

    
ในเมื่อมีคนที่สมหวังในหน้าที่การงาน แน่นอนอีกฟากหนึ่งของอารมณ์ ความรู้สึก พวกเขาอาจจะแทบเหวี่ยงแห จับปลาประหนึ่งว่า ร่อนใบสมัครไปทุกที่ทุกแห่ง ตำแหน่งหนึ่งไม่ได้ ตำแหน่งสองก็ยังดี หรือไม่อย่างนั้นตำแหน่งไหน ก็ได้ ทำงานอะไรก็ได้ ขอเพียงให้บริษัทเปิดรับเข้าไปทำงาน ไปพิสูจน์ฝีมือกันดูสักตั้งว่า แม้ไม่ได้เรียนมาทางด้านนี้แต่จะสามารถทำงานนี้ได้จริงหรือ ถ้าไม่แบบเทคนิเชียลจริงๆ เชื่อว่าก็มีหลายคนเคยผ่านประสบการณ์ตรงนี้มาแล้ว ซึ่งบรรยากาศแบบนี้จะเห็นกันมากในบรรดานักศึกษาจบใหม่ แล้วกำลังมองหางานที่ถูกใจ แต่บังเอิญงานที่ถูกใจดันมี ผู้แข่งขันล้นตลาด ตนเองจึงถูกกวาดตลาดที่อาจ (ไม่) ถูกใจในตอนแรกนัก

    
แต่หากมองโลกในแง่ดีเข้าไว้ มีงานทำดีกว่าเดินตกงาน เหงื่อตก เพราะมัวแต่รองานที่ถูกใจเรียกไปสัมภาษณ์ ซึ่งอนาคตก็เห็นกันชัดๆ ว่ายาก หากไม่ได้เป็นลูกเศรษฐีเปิดบริษัท หรือเป็นทายาทธุรกิจพันล้าน เอาง่ายๆ แค่ว่าตอนนี้มีแต่บทตัวประกอบ แต่ตัวเองสมัครไปเป็นพระเอก นางเอก ถามว่าถ้าเป็นอย่างนี้แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า ตัวประกอบเขาแสดงอะไร แท้จริงแล้วมีความสำคัญอย่างไร


    
เอาเป็นลองไปดูกันว่า หากคุณหรือเพื่อนตกอยู่ในสภาพนี้ควรทำอย่างไรเพื่อหาทางออกที่ดีให้ชีวิต อาจจะไม่เพอร์เฟ็กต์แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้คุณรู้สึกมีค่าขึ้น  ไม่ใช่ทำงานที่ ไม่ถูกใจแล้วตัวเองจะหมดค่าไปด้วยเสียเมื่อไหร่!!

     • 
เปิดใจให้กว้าง
     • 
เลิกหมกมุ่นหางานใหม่ (ตลอดเวลา)

     •  อย่าดูถูกงานที่ทำ
     •  ให้ความรักกับงาน

    
ถามตัวเองดูทุกวันนี้คุณให้ความรักกับงานที่ทำแล้ว หรือยัง เต็มที่หรือยัง หรือว่าด้อยประสิทธิภาพลงไปทุกวันอีกต่างหาก ในเรื่องของความรักเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้เรื่องอื่นๆ เพราะว่าการให้ความรักกับงานที่ทำ แม้อาจจะไม่ใช่ สายงานที่ชอบโดยตรง แต่อย่างน้อยก็ยังรักงานที่ทำอยู่ ก็ช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น นอกจากนี้ ความรักยังไม่ใช่แค่ใส่ลงไปในงาน เพราะยังต้องเติมความรักให้กับเพื่อนร่วมงาน เจ้านาย ลูกน้อง ผู้ใต้บังคับบัญชา ผู้บังคับบัญชา รวมไปถึงกระทั่งรักองค์กร เรียกว่ารักให้เหมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน และคุณนั้นเข้าใจงานของคุณมากแค่ไหน อ่านเพิ่มเติมได้ที่:"งาน ของคุณ" อารมณ์ไหน?

    
ซึ่งการที่มีความรัก ความหวังดีให้กันนั้น ก็จะช่วยลดดีกรีการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นได้มาก เพราะจะทำให้เกิดความสามัคคีปรองดองรักใคร่กัน พาให้องค์กรเจริญก้าวหน้าไปอีกด้วย แต่เมื่อใดเกิดการอิจฉาริษยา แทงข้างหลัง เลื่อยขาเก้าอี้กันเมื่อไร บอกได้คำเดียวว่า คุณจะไม่มีความสุขในการทำงานได้เลย แถมยังจะก่อให้เกิดคำกล่าวที่ว่า "ทำดีได้ แต่อย่าเด่น จะเป็นภัย" อีกต่างหาก เอาเป็นว่าอยากมีความสุขกับชีวิตการทำงาน ก็ลองหัดรักในงานที่ทำ เมื่อรักแล้วสนุก ก็เหมือนไม่ได้รู้สึกเหนื่อย ไม่มีแรงกดดัน เหลือสมองไว้คิดสร้างสรรค์งานได้อีกเพียบ แยกแยะระหว่างงานที่ทำกับงานที่ชอบ


ที่มา : http://www.jobjob.co.th

 1300
ผู้เข้าชม
ทำเว็บธุรกิจ ทําเว็บขายของ ออกแบบเว็บไซต์ เว็บไซต์สำเร็จรูป SoGoodWeb

People Management

ไม่พบรายการที่คุณค้นหา
Get started for free today. DEMO FREE 60 DAYS
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์