เทคนิคการพัฒนาตนเอง ข้อคิดในการบริหารชีวิตเชิงมิติ

เทคนิคการพัฒนาตนเอง ข้อคิดในการบริหารชีวิตเชิงมิติ


     หลายคนเกิดคำว่า "เสียดาย" ขึ้นในจิตใจ บางคนถึงกับบ่นออกมาว่า "ไม่น่าเลย รู้อย่างนี้น่าจะทำให้ดีกว่านี้"สาเหตุสำคัญเกิดจากความไม่เข้าใจในความ สัมพันธ์ของมิติแห่งชีวิต การขาดการเชื่อมโยงเหตุและผลของกิจกรรมในชีวิตในแต่ละช่วงเวลา

    
ชีวิตของคนเรามีองค์ประกอบอยู่ 3 ส่วนคือ ร่างกาย จิตใจ และสภาพแวดล้อม และมี 3 มิติคือ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ซึ่งทั้ง 3 ส่วนและ 3 มิตินี้ จะมีความสัมพันธ์กันชนิดที่แยกออกจากกันไม่ได้เลยทีเดียว  นอกจาก 3 มิตินี้แล้วยังมี 4 เทคนิคพัฒนาตัวเองอีก อ่านต่อที่:เทคนิคการพัฒนาตนเองด้วยหลัก 4 Self

    
ถ้ามองในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างส่วนประกอบ่ต่างๆแล้ว จะเห็นว่าถ้าส่วนใดส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบ เช่น จิตใจหดหู่ ย่อมส่งผลกระทบต่อร่างกายและสังคม ในทางกลับกันถ้าร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์จิตใจเข้มแข็ง แต่ถ้าต้องอยู่ภายในสภาวะแวดล้อมที่ไม่มี โอกาสที่จะทำให้ร่างกายและจิตใจอ่อนแอก็มีมากเหมือนกัน

    
ถ้ามองในแง่ของมิติของชีวิตจะพบว่าสิ่งที่เราเป็นอยู่ มีอยู่ ในปัจจุบันนั้น เป็นผลพวงที่เกิดจากมิติในอดีตทั้งนั้นเลย เช่น การที่เรามีงานทำเกิดจากการที่เรามีความรู้จากการศึกษา จากประสบการณ์ก่อนหน้านี้ การที่เรามีบ้านในวันนี้เป็นเพราะเราเก็บเงินสร้างบ้านมาเมื่อหลายปีก่อน ถ้าเราไม่มีเมื่อวาน เราก็คงไม่มีวันนี้

    
ในขณะเดียวกันสิ่งที่เรากำลังทำ เป็นอยู่ มีอยู่ ในปัจจุบันนี้คือสะพานหรือรากฐานที่จะบันดาลอนาคตของเราเช่นเดียวกันกับที่ อดีตสร้างปัจจุบันให้เรา งานที่เราทำอยู่ทุกวันนี้นี้คือบันไดแห่งความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่ที่ สูงขึ้นในอนาคต ชีวิตครอบที่เราเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้คือรากฐานของครอบครัวลูกหลานในวันหน้า ความรู้และประสบการณ์ในวันนี้คือบทเรียนในวันพรุ่งนี้


    
คนที่ต้องการพัฒนาตนเองสู่ความสำเร็จในชีวิตนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องบริหารชีวิตบนพื้นฐานของการสร้างความสมดุลของ 3 ส่วนและ 3 มิติดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ผมคงไม่สามารถเสนอแนะแนวทางในการพัฒนาเหมือนเรื่องอื่นๆได้ เพราะชีวิตใครก็ชีวิตใคร ไม่มีใครรู้ดีเท่ากับเจ้าของชีวิต ผมเพียงแต่อยากจะให้ข้อคิดเพื่อสะกิดใจให้กับท่านผู้อ่านในบางประเด็นเท่านั้น เช่น

1.ได้อย่างเสียหลายอย่าง

     เราจะเห็นว่าคนทำงานที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานหลายคน มักจะประสบกับความล้มเหลวด้านร่างกาย เพราะในขณะที่ทุ่มเททำงานหนักเพื่อความสำเร็จอยู่นั้น ขาดการดูแลร่างกาย ขาดการดูแลครอบครัวและสังคมรอบข้าง วันหนึ่งเมื่อความสำเร็จในหน้าที่การงานมาเยือน มันจะชักชวนเพื่อนที่เป็น "โรค" และ "ความล้มเหลวในชีวิตครอบครัว" มาด้วย

    
เรื่องนี้คงจะพอเป็นข้อคิดให้กับผู้อ่านว่า "อย่าเอียง" ไปในด้านใดด้านหนึ่งมากเกินไป ขอให้เดินทางสายกลาง เพราะวันหนึ่งสิ่งที่ได้มา (ทรัพย์สินเงินทอง หน้าที่การงาน) มันไม่สามารถมาชดเชยกันสิ่งที่จะเสียไป (การเจ็บป่วย ครอบครัวแตกแยก) ไม่ได้

2.อดีตคือประวัติศาสตร์ที่แก้ไม่ได้

     คนหลายคนที่มีโอกาสที่ "เกือบจะ" ประสบความสำเร็จในชีวิตในด้านต่างๆมากมาย แต่เพราะ "อดีต" เป็นขวากหนามที่สำคัญ ทำให้พลาดโอกาสนั้นๆไปอย่างน่าเสียดาย เช่น ผู้จัดการบางคนเป็นคนที่เก่งมาก ผลงานในตำแหน่งผู้จัดการดีมาก ถูกเสนอชื่อให้เป็นผู้บริหารระดับสูง แต่ติดอยู่ที่ว่าเมื่อตอนที่เป็นพนักงาน เคยทำผิดในกรณีทุจริตเล็กน้อยมาก่อน หรือเพียงแค่มีข่าวแว่วๆมาว่าไม่ค่อยโปร่งใส เท่านี้ "ประตูชัยแห่งความสำเร็จ" ก็ปิดรับผู้จัดการคนนั้นไปเกือบสนิทเลยทีเดียว

3.คำนึงผลตอบแทนระยะสั้น ด้วยเงื่อนไข "ถ้า(If)"

     คนทั่วไปมักจะดึงเอาศักยภาพของตัวเองออกมาใช้ตามระดับของปัจจัยดึงดูดที่ นิยมเรียกกันว่า "ผลตอบแทนระยะสั้น" หรือ "ระดับความพึงพอใจ" มากเกินไป เช่น ถ้าเงินเดือนขึ้นเยอะก็จะทุ่มเททำงานให้มากขึ้น ถ้าได้เลื่อนตำแหน่งจะพัฒนางานให้มากกว่านี้ ถ้าหัวหน้าด่ามากๆ จะทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม และมีอีกหลายถ้า

4.ความสำเร็จคือผลสะท้อนกลับของการกระทำ

     การกระทำทางกาย วาจา ใจ ต่อตัวเองและผู้อื่นในอดีตจะถูกสะท้อนออกมาเป็นผลสำเร็จหรือล้มเหลวใน ปัจจุบัน เช่น เราเคยทำร้ายจิตใจคนอื่นมาก่อน วันนี้เขาอาจจะกลับมาทำร้ายร่างกายของเรา ทำลายอนาคตหน้าที่การงานของเรา เราเคยบาดเจ็บทางด้านจิตใจเนื่องจากมีปมด้อยมาก่อน ปมด้อยนั้นอาจจะเป็นแรงฮึดให้เรามาสู่ความสำเร็จในปัจจุบันก็ได้ เช่นเดียวกันกับการบริหารร่างกาย จิตใจ และสังคมของเราในปัจจุบัน จะส่งผลสะท้อนกลับมาหาเราในอนาคตได้เช่นเดียวกัน เช่น วันนี้เราดูแลร่างกายโดยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ วันหนึ่งในอนาคตอาจจะส่งผลให้เรามีร่างกายแข็งแรงเพียงพอที่จะขึ้นไปทำ หน้าที่ผู้บริหารระดับสูงขององค์กรก็ได้ เพราะคงไม่มีบริษัทไหนจ้างผู้บริหารที่เก่งมาก แต่เจ็บป่วยออดๆแอดๆมาทำงานวันเว้นวันหรอกนะครับ

    
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อคิดเพียงเล็กๆน้อยๆ ที่ต้องการสื่อให้ผู้อ่านเห็นว่าชีวิตเราไม่ใช่สิ่งใดสิ่งหนึ่ง ไม่ใช่มิติใดมิติหนึ่ง หรือส่วนใดส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ชีวิตเราคือทุกสิ่งทุกอย่างทั้งร่างกาย จิตใจ สังคม และอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เราจึงต้องให้ความสำคัญมากพอๆกัน


ที่มา : ณรงค์วิทย์ แสนทอง
http://www.hrcenter.co.th/

 2942
ผู้เข้าชม
ทำเว็บธุรกิจ ทําเว็บขายของ ออกแบบเว็บไซต์ เว็บไซต์สำเร็จรูป SoGoodWeb

People Management

ไม่พบรายการที่คุณค้นหา
Get started for free today. DEMO FREE 60 DAYS
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์