การเสริมสร้างการเรียนรู้ของพนักงานด้วยโครงการ

      แต่การสร้างระบบการเรียนรู้ของพนักงานหรือระดับหัวหน้างาน ยังมีโดยวิธีการอื่นที่ไม่ใช่เป็นการฝึกอบรม แต่เป็นระบบของการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์การทำงาน การนำเสนอขยายแนวความคิดที่หลากหลายจากผู้ที่มีประสบการณ์ในการทำงานจาก องค์การอื่นหรือหน่วยงานอื่นมาแลกเปลี่ยนหรือถ่ายทอดความรู้ในองค์การของเรา ได้ในลักษณะกึ่งการประชุมพูดคุยและการฝึกอบรมในบรรยากาศที่เป็นกันเองของผู้ เข้าร่วมซึ่งเราจะเรียก โครงการ Coffee Talk

เหตุผลของโครงการ
      พนักงานหรือหัวหน้างานโดยทั่วไปเมื่อทำงานในองค์การ อาจจะขาดการเรียนรู้ ไม่มีโอกาสหรือเวลาในการได้เรียนรู้ ได้รับรู้ ประสบการณ์ของผู้อื่นๆ ที่มีผลงานและประสบความสำเร็จ มีเทคนิคและแนวทางในการทำงาน จะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ หากนำมาจัดเป็นโครงการฝึกอบรม ก็จะมีความเป็นทางการ ใช้ระยะเวลานานไป ไม่ใกล้ชิดที่จะแลกเปลี่ยนความรู้ หรือประเด็นที่ต้องการจะทราบอาจจะเป็นประเด็นเกี่ยวกับปัญหาในการทำงาน บางจุดบางประเด็น และผู้ที่นำการประชุมอาจจะเป็นผู้ที่มีความรู้ประสบการณ์แต่อาจจะไม่สามารถ ถ่ายทอดในลักษณะของวิทยากรได้ แต่มีความสามารรถที่จะถ่ายทอดความรู้ในลักษณะการพูดคุยกันแบบธรรมดาของคนทำ งานทั่วๆไป

รูปแบบและวิธีการ

      1. ควรเป็นกำหนดเป็นนโยบายของหน่วยงานหรือบริษัท และได้รับความเห็นชอบจากผู้บริหารก่อน

      2. กำหนดหัวข้อ หรือประเด็นที่จะพูดคุย เช่น การพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงาน การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในหน่วยงาน เทคนิคการสัมภาษณ์งาน เทคนิคการสอนงาน เทคนิคการสัมภาษณ์และตัดเลือกบุคคล การพัฒนาระบบการสื่อสารในหน่วยงาน การพัฒนาจิตสำนึกคุณภาพ ระบบการประเมินผลงาน ฯลฯ เป็นต้น

      3. กำหนดผู้ที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุม พุดคุย เช่น ผู้จัดการ หัวหน้างาน เจ้าหน้าที่ในสายงานต่างๆ เช่น วิศวกร ช่างเทคนิค นักบัญชี จัดซื้อ ขาย บุคคล คอมพิวเตอร์ ฯลฯ

      4. กำหนดระยะเวลา ประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนเที่ยง อาจจะจัดทุกๆเดือน เดือนละ 2-3 ครั้ง

      5. กำหนดสถานที่ ซึ่งควรจะเป็นห้องประชุม

      6. สร้างบรรยากาศที่เป็นการเลี้ยงอาหารหรือทานกาแฟ ร่วมกัน

      7. เชิญผู้ที่มี ความรู้ มีประสบการณ์ หรือมีผลงานความสำเร็จในการทำงาน วิชาชีพ หรือการบริหาร


     งานจากภายนอกบริษัท หรือภายนอกหน่วยงาน แจ้งประเด็นที่จะให้พูดแสดงความคิดเห็น การ
สรรหาบุคคลที่จะเป็นผู้นำการประชุมพุดคุยถ่ายทอดประสบการณ์ อาจจะเริ่มจาก

      1) เราอาจจะนึกถึงคนที่ใกล้ชิดก่อนเช่น เพื่อนที่เคยเรียนในสถาบันการศึกษา หรือเพื่อนร่วมงาน หัวหน้างานจากสถานที่ทำงานเก่า เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถด้านใดด้านหนึ่ง และมีเวลาและสะดวกในการที่จะเดินทางมาร่วมประชุม

      2) ผู้บริหารหรือเจ้าหน้าที่ของบริษัทลูกค้า ผู้จัดส่งวัตถุดิบ

      3) ในบางครั้งอาจจะเป็น ผู้บริหาร วิทยากรหรือบุคคลที่มีชื่อเสียงในสังคม (ซึ่งอาจจะมีค่าตอบ
แทนพิเศษให้บ้าง แต่อยู่ที่เงื่อนไขการตกลงกัน) การเลือกจากผู้ที่มีความสามารถและใกล้ชิดคุ้นเคยกัน จะสามารถพูดคุยว่าไม่ต้องคิดค่าตอบแทน แต่บริษัทหรือหน่วยงานอาจจะสนับสนุนในด้านการเลี้ยงอาหาร หรือทานกาแฟร่วมกันระหว่างผู้เข้าร่วมประชุมกับผู้ถ่ายทอดที่ได้เชิญมา

ประโยชน์

      1. เป็นการลดค่าใช้จ่ายในการสร้างระบบการเรียนรู้

      2. เป็นการเรียนรู้ที่ลดระยะเวลา และมุ่งเพียงประเด็นใดประเด็นหนึ่ง

      3. ได้เรียนรู้จากสิ่งที่เป็นประสบการณ์จริงที่จะเป็นข้อคิดหรือการนำมา ประยุกต์ได้

      4. บรรยายกาศการประชุมพูดคุยที่เป็นกันเองมีความใกล้ชิด มีโอกาสในการซักถามแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน

       5. โอกาสในการฝึกฝนพัฒนาตนเองเพื่อเป็นวิทยากรที่มีความสามารถในวันหน้า

      ดังนั้นโครงการนี้ จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่องค์การ ควรจะหันมาให้ความสนใจ และนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม ผลที่ได้จะช่วยในการสร้างการเรียนรู้เพิ่มขึ้นแก่บุคลากรในหน่วยงาน อย่างน้อยก็เป็นการเปิดโลกทัศน์และจะได้รู้ว่าองค์กรภายนอกเขาได้มีการพัฒนา และดำเนินการอย่างไร ในเรื่องหรือปัญหาอย่างเดียวกัน


ที่มา : http://www.hrcenter.co.th