8 วิธี รักงานที่คุณทำ

8 วิธี รักงานที่คุณทำ


      มีเพลงของครอสบี้เพลงหนึ่งที่ว่า "หากคุณไม่สามารถ อยู่กับคนที่คุณรักได้ละก็ จงรักคนที่คุณกำลังอยู่ด้วย" ซึ่งหากนำมาปรับให้เข้ากับสภาพเศรษฐกิจ ที่แสน ผันผวนตอนนี้แล้วล่ะก็ เพลงนี้สามารถนำมาปรับใช้ กับเรื่องการงาน ได้เป็นอย่าง ดีทีเดียว แน่นอนเราไม่ได้ยุให้คุณ ตบเท้าลาออกจากงาน เพื่อมา นั่งเบื่อ นั่งเครียด นั่งเศร้าอีก 6 เดือนเพื่อรอให้เศรษฐกิจฟื้นตัว แต่เรากำลัง จะชวนคุณกระตุ้มต่อม ขยัน เพื่อให้งานที่คุณกำลังทำอยู่ทุกวันนี้ "เวิร์ก" สำหรับคุณการรับมือและแก้ปัญหางาน ที่คุณมีอยู่ในตอนนี้ ดูจะเสี่ยงน้อยกว่า การออกไปล่า หางานใหม่แน่นอน และเมื่อไรที่คุณเปลี่ยนแปลง สิ่งพื้นฐานต่าง ๆ ได้แล้ว คุณจะพบว่า คุณเองกำลังทำงาน อย่างมีความสุขในที่ ๆ เหมาะกับคุณที่สุด (อย่างน้อยก็ในขณะนี้) มาพบกับ 8 วิธีที่จะทำให้วันทำงานของคุณ เป็นวันที่ดี ที่สุดกันได้เลยค่ะ

 

      มุ่งไปที่ "ผลงานที่ออกมาของคุณ" มากกว่า "ชนิดของงานที่คุณกำลังทำอยู่"หลายคนคิดไปว่าความพอใจด้านหน้าที่การงานสูงสุด ของคนเราอยู่ ที่การ ได้งานที่สมบูรณ์แบบที่สุด แต่จริง ๆ แล้วเป็นการให้ความ สำคัญผิด ลำดับ ก่อนหลังเอามาก ๆ ทีเดียว ขั้นแรกสู่การทำสิ่งที่เรา รักนั้น รวมถึงการ ทำสิ่งนั้น ๆ อย่างตั้งใจ ลองจินตนาการ ถึงงานที่คุณ อยากทำมาก ๆ สักอย่างดู หากมีใครสักคน หยิบยื่นโอกาสให้คุณ ได้ทำจริง ๆ แล้วล่ะก็ คุณคงตั้งใจ เต็มที่เลยใช่ไหม เรียกว่าเต็มไปด้วย แรงบันดาลใจ และมั่นใจเต็มร้อย

      ทั้งหมดนี้ก็คือสิ่งที่คุณต้องนำมาประยุกต์กับงาน ที่คุณทำอยู่ทุกวันนี้ ไม่ว่างานจะ "ยี้" แค่ไหนในความคิดคุณ ก็ตาม ไม่ว่าคุณจะเห็นว่างาน ที่คุณ ทำอยู่นั้น จะช่างดูถูกความสามารถ และวุฒิการศึกษา ของคุณ ขนาด ไหน ถ้าคุณมุ่งไปที่ผลงาน แทนที่จะเป็นตัวงานแล้วล่ะก็ เชื่อเถอะว่า คุณจะรู้สึก ชื่นใจ กับผลงาน ที่ออกมาและมีความสุข กับงานมากกว่า เดิมแน่นอน

      หาเพื่อนช่วยติว ในออฟฟิศคงมีใครสักคน ที่คุณแอบปลื้ม ฝีไม้ลายมือ การทำงานอยู่ คุณ สามารถเรียนรู้ ได้มากมายจากคน ๆ นี้ คุณอาจเข้าไปทำความสนิทสนม แล้วขอให้เขาเป็นคนช่วยติว ให้คุณด้วยการวิพากย์วิจารณ์ ผลงาน ของคุณ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ติวเตอร์ของคุณคนนี้ ควรเป็นคนที่ ประสบความ สำเร็จ ในหน้าที่การงาน ในระดับหนึ่งและมีทัศนคติ ที่ดีต่อองค์กรที่ทำงานอยู่

      ผสานความสามารถของคุณ เข้ากับเป้าหมายของบริษัทหลายคนพบว่า ตัวเองไม่ค่อยได้ใช้ ความสามารถที่มีอยู่เท่าใดนัก ลองหัน มาหาวิธี ที่จะผสานความสามารถ ที่คุณมีให้เข้ากับ ความต้องการ ของ บริษัทดู ขั้นแรกคือ ต้องรู้ว่าคุณเอง มีความสามารถอะไร ที่โดดเด่น หลัง จากนั้น คุณก็ต้องหาข้อมูล เรื่องทิศทางของบริษัท เมื่อคุณรู้เป้าหมาย ของบริษัทแล้ว ก็ดูว่าคุณจะสามารถ นำทักษะที่คุณมีมาใช้ให้เป็น ประโยชน์ ต่อบริษัทได้อย่างไร แล้วนำความคิดที่ได้ไปเสนอเจ้านาย คุณอาจรู้สึกว่า ต้องใช้ทั้งหัวคิด และความกล้าเป็นอย่างมาก แต่ผลที่จะ ได้รับนั้น รับรองว่าคุ้มค่ามาก เพราะคุณจะได้สวมบทบาทใหม่ คือได้ทำ ทั้งสิ่งที่คุณชำนาญ แถมความชำนาญของคุณ ยังมีประโยชน์ต่อ บริษัท โดยตรง ผลงานเข้าตาอย่างนี้เตรียมรับโบนัสปลายปีได้เลย

      รู้จุดด้อยของตัวเองแล้วหาทางแก้ไข การปรับปรุง ความสามารถ ในการทำงาน จะง่ายขึ้นหากคุณยอมรับว่า คุณไม่ได้สมบูรณ์แบบ ไปหมดทุกอย่าง และหาข้อด้อย ของตัวเองให้พบ เพราะในการทำงาน ร่วมกันนั้น คนเรามักโยน ข้อผิดพลาด ไปให้ผู้อื่น เสมอ ทั้งที่ความจริงทุกคน ควรร่วมมือกันอย่างลงตัว ทั้งฝ่ายบริหารและ พนักงาน ซึ่งการที่จะทำให้ได้ อย่างนั้น คุณต้องตีสถานการณ์ ให้แตกแล้ว นำบทเรียน ที่ได้มาปรับปรุง การทำงาน รวมทั้งความสัมพันธ์ ระหว่าง คุณกับ เจ้านายและเพื่อนร่วมงาน

      วิธีที่ง่ายที่สุดคือ ตัวคุณเองต้องมีความยืดหยุ่น และผ่อนปรนมาก ๆ เช่น หากคุณมาสาย ก็ให้หัดมาให้เช้า ขึ้นตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หากความ สัมพันธ์ กับเจ้านายไม่ค่อยดี ก็ลองย้อนกลับมาดูซิว่า คุณเป็นลูกน้อง ที่ใช้การได้จริง หรือ เปล่า จุดด้อยนั้นไม่จำเป็นต้อง เป็นความผิดพลาด ที่คุณทำ แต่อาจจะเป็น ด้านใด ด้านหนึ่งที่คุณขาดความมั่นใจ หรือ ประสบ การณ์ ซึ่งหากคุณแก้ไขได้แล้ว คุณก็จะก้าวหน้า ในหน้าที่ การงาน ได้มากทีเดียว


      ตีฆ้องร้องป่าว ลองนึกดูซิว่า มีอะไรที่คุณทำได้ดี แต่ไม่เคยมีใครให้เครดิต บ้างหรือเปล่า การไม่ได้รับความชื่นชม ในสิ่งที่ทำคือหนึ่งในสาเหตุ ที่ทำให้คนเราไม่มี ความพอใจ ในการทำงาน ผู้เชี่ยวชาญแนะว่า หากเราต้องการคำชมเชย ก็ควรจะทำดี ให้นายได้เห็นตรง ๆ อาจจะฟังดูขัด กับความรู้สึก เหมือน กับ เป็นคน อยากได้หน้า อยู่ตลอดเวลา แต่หากทำอย่างถูกวิธี ก็จะมี ประโยชน์ ต่อตัวคุณเอง เพราะคนที่ประสบ ความสำเร็จในการทำงานนั้น ไม่ใช่คน ที่เอา แต่นั่งรอว่า เมื่อไรจะมีคนเห็น ความดีที่ตัวเองทำลงไป หากแต่เป็น คนที่ทำดี และบอกให้คนอื่น ได้รู้เห็นร่วมด้วย พูดง่าย ๆ คือ อย่ามัวแต่ ปิดทอง หลังพระกันอยู่เลยค่ะ

        ใช้ประโยชน์จากเทรนนิ่ง ที่บริษัทมีให้อย่างคุ้มค่าหลายบริษัทมีเทรนนิ่ง ให้กับพนักงาน โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็น ด้านคอมพิวเตอร์ ภาษา หรือการบริหาร แม้วิชาเหล่านี้จะ ไม่ได้มี ประโยชน์ กับงานที่คุณทำอยู่ อย่างเห็นได้ชัด แต่ก็จะช่วยเพิ่มค่า ให้กับตัวคุณเมื่อไร ก็ตามที่คุณคิดมองหางานใหม่ ถ้าบริษัทไม่มี เทรนนิ่งให้ คุณก็อาจเป็น ฝ่ายร้องขอได้ เจ้านายของคุณอาจจะ ประทับใจกับความใฝ่รู้ของคุณก็ได้นะ

      อยากได้  ต้องขอการร้องขอนั้น ดูจะเป็นกลยุทธ์ง่าย ๆ แต่ไม่ค่อยมีใคร ใช้มากนัก ไม่ใช่ว่า ฝ่ายบริหาร จะไม่อยากให้พนักงานได้ในสิ่งที่ต้องการ แต่บางทีงานที่ยุ่ง ๆ ก็ทำให้บรรดาเจ้านายลืม ๆ ไปได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้น แทนที่จะ ปล่อย ให้เจ้านายยุ่งจนลืมโลก ลองหาเวลาเข้าไปคุย ในเวลาที่นาย ไม่เหนื่อย จนเกินไป แล้วเอ่ยปากขอ ในสิ่งที่คุณต้องการ

      ริเริ่มทำสิ่งใหม่ ๆ สำหรับคนที่รู้สึกเบื่อ หรือตันกับการทำงาน ลองคิดทำสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมา เพื่อ สร้างแรง บันดาลใจ ให้กับตนเองเดินหน้าต่อไป ลองเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ เช่น จัดโต๊ะทำงานใหม่ ก่อนที่จะขยับขยาย ไปสู่สิ่งที่ใหญ่ขึ้น เช่น ริเริ่ม โครงการ อาสาสมัครในบริษัท การริเริ่มทำสิ่งใหม่ ๆ นั้นไม่ได้ ทำให้คุณ มีงานทำมาก ขึ้นเท่านั้น

      เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การได้ใช้ความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ ต่างหาก การได้เป็นผู้ริเริ่ม จะทำให้คุณโดดเด่น และมั่นใจ การได้ ริเริ่มทำใน สิ่งที่คุณสนใจ จะช่วยให้คุณ ละทัศนคติที่ไม่ดี ที่คุณมี ต่องาน ที่ทำ และหันมา รักงานมากขึ้น การได้ทำอะไร ให้ตัวเองยุ่ง อยู่ตลอด ด้วยการทำสิ่ง ที่รัก จะช่วยให้คุณรู้สึกมีคุณค่า



 โดย สันทนีย์ ภัทรสันติ์

รวมทุกเรื่องที่ผู้หญิงอยากรู้
ครบทั้งสาระและบันเทิงเริงใจ ทั้งแฟชั่น วิธีพิชิตใจชาย
คลิกเลย  http://women.sanook.com

 974
ผู้เข้าชม
ทำเว็บธุรกิจ ทําเว็บขายของ ออกแบบเว็บไซต์ เว็บไซต์สำเร็จรูป SoGoodWeb

People Management

ไม่พบรายการที่คุณค้นหา
Get started for free today. DEMO FREE 60 DAYS
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์