เทคนิคการทำงาน: 7 ประสบการณ์เลวร้ายในที่ทำงาน

เทคนิคการทำงาน: 7 ประสบการณ์เลวร้ายในที่ทำงาน


       เราต่างเคยได้ยินเรื่องแผลใจจากความรัก แต่รู้ไหมว่าประสบการณ์เลวร้ายที่คุณได้รับจากการทำงานที่สร้างแผลใจให้คุณเช่นกัน? (เหมือนว่าเรายังมีแผลในใจไม่พองั้นล่ะ) แน่นอนว่าอดีตอันคับแค้นอาจส่งผลต่อความก้าวหน้าของคุณ เราจึงขอแนะนำจากนักจิตวิทยามาลงในบทความนี้ เพื่อให้คุณรับมือกับปัญหาที่พบเจอได้มากที่สุดในที่ทำงานก่อนที่มันจะสร้างแผลใจให้คุณ

     
ถูกไล่ออก
      ถ้ามีคำพูดที่เรากลัวได้ยินที่สุดในการทำงานก็คงไม่พ้นประโยคที่ว่า "เราไม่ต้องการความสามารถของคุณอีก" การถูกมองเป็นส่วนเกินหรือที่แย่กว่านั้นคือถูกไล่ออก อาจทำลายความเชื่อมั่นของคุณได้อย่างย่อยยับ แต่มันก็ไม่ถึงกับหมายความว่าชีวิตคุณอับจนทนทางไปเสียเลย

      บาดแผล: การถูกมองเป็นส่วนเกินอาจทำลายความเชื่อมั่นของคุณ ถ้าคุณไม่เข้าใจสาเหตุ มันอาจทำให้คุณรู้สึกว่าเป็นการหยามกันเป็นส่วนตัว แต่มันก็แค่ส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจทุกวันนี้เท่านั้น

      สิ่งสำคัญคือการยอมรับความจริง รับเงินและก้าวไปข้างหน้า อย่ายึดติดกับอดีต ถ้าคุณถูกไล่ออกเพราะทำผิดพลาด ก็ควรพยายามเอามาเป็นบทเรียนและก้าวต่อไป อย่าห่วงว่าเจ้านายในอนาคตจะคิดอย่างไร ใครก็ตามที่ไล่ลูกน้องออก คงไม่บอกเรื่องทั้งหมดอย่างละเอียด เขาจะจัดการสถานการณ์นี้อย่างระมัดระวังยิ่งกว่าที่คุณคิด และจำไว้ว่าเขาไม่มีสิทธิ์เขียนข้อความตำหนิประฌามคุณ อีโก้ของคุณอาจถูกกระทบกระเทือนบ้าง แต่ก็เป็นอยู่พักหนึ่งเท่านั้น จนกว่าอะไรมาหนุนเสริมมันอีกครั้ง

      คำแนะนำ: อย่าเก็บมาใส่ใจ เรียนรู้จากอดีตและเริ่มงานใหม่ (กับตัวคุณคนใหม่)

เกลียดงาน

      ถ้าคุณรู้สึกอยู่ไม่สุข ความเบื่ออาจเป็นสาเหตุ ที่ถูกที่ควรแล้วคุณรู้ตัวแต่เนิ่นๆ และเริ่มวางแผนหางานเหมาะเจาะต่อไป แต่บางครั้งการตัดสินใจลาออกอาจเกิดขึ้นกะทันหันและรู้สึกเหมือนว่าถ้าไม่ทำเดี๋ยวนี้ก็จะไม่ได้ทำเลย คุณเกลียดงานหรือเจ้านายกันแน่? การออกจากงานแบบบริดเจ็ท โจนส์ อาจน่าตื่นเต้นและน่ากลัวมากเช่นกัน

      บาดแผล: ไม่ว่าคุณจะออกจากงานในรูปแบบดุเดือดขนาดไหน ให้คิดแง่บวกไว้ว่า "ถึงคุณจะออกจากงานฉับพลัน แต่นี่คือทางเลือกของคุณ เป็นการตัดสินใจของคุณเอง" การลาออกคือการให้อิสระตัวเองสำหรับทางเลือกถัดไป แน่นอนว่าคนหัวเก่าอาจห่วงเรื่องความต่อเนื่องในการทำงาน แต่คนประเภทนั้นก็คงไม่รู้สึกอยากออกจากงานแต่แรกแล้ว

      คำแนะนำ: ถึงจะเป็นการตัดสินใจแบบไม่ยั้งคิด แต่คงไร้เหตุผลที่จะไม่ทำตามความต้องการของตัวเอง

เลือกงานผิด
      ถ้ามีผู้หญิงตกลงใจจะเป็นสถาปนิกตั้งแต่อายุห้าขวบและมีความสุขกับความสำเร็จในอาชีพนี้เมื่อโตขึ้น ก็คงมีอยู่นับคนได้ เราทุกคนต่างเคยเปลี่ยนงานและตั้งคำถามกับทางเลือกของตัวเองเป็นครั้งคราว แต่การเปลี่ยนสายงาน (เช่นจากผู้บริหารบริษัทข้ามชาติมาเป็นคนเลี้ยงเด็ก) จำต้องอาศัยศรัทธาและการทดสอบจิตใจอย่างมาก (รวมถึงพลังใจด้วย)

      บาดแผล: งานแรกๆ ของเรามักเกิดขึ้นโดยไม่มีการวางแผนหรือคิดให้รอบคอบ ช่วงปลายอายุ 20 คุณอาจตัดสินใจเปลี่ยนงาน ซึ่งไม่ได้หมายถึงการก้าวถอยหลังเสมอไป เช่นถ้าคุณเป็นนักเศรษฐศาสตร์ คุณอาจมีวุฒิ กลายเป็นนักวิเคราะห์ด้านการเงิน แต่กลับหันเหไปทำอาชีพใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าคุณจะต้องทำงานเพื่อกลับมายังจุดที่คุณอยากจะเป็น จงยอมรับว่านี่อาจหมายถึงเกียรติหรือรายได้ที่น้อยลง และให้จดจำสาเหตุที่คุณอยากเปลี่ยนงาน

      คำแนะนำ: สลัดทิ้งความเสียใจที่เกิดขึ้น เพราะลึกๆ แล้วคุณคงไม่เปลี่ยนงานถ้าไม่รู้ว่ามันคุ้มค่า หรือทำให้คุณเลิกสติแตกได้


งานใหญ่เกินตัว
      การถูกเหวี่ยงขึ้นไป 10 ชั้นก่อนเวลาอันควร หมายถึงคุณได้รับงานในตำแหน่งที่สูงขึ้นนั้น (แล้วต่อมาก็จำต้องเดินถอยลงมาสองสามขั้น) อาจเป็นประสบการณ์ที่น่าเหนื่อยใจ และเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ต้องยอมรับงานอื่นที่มีอำนาจและแรงกดดันน้อยกว่า แต่การลดภาระงาน ไม่ว่าคุณจะเลือกเองหรือเจ้านายสั่ง ก็ยังเป็นเรื่องยากจะรับได้เมื่อทุกอย่างคลี่คลาย (ไม่ใช่แค่เพราะคุณต้องเสียสิทธิ์เข้าห้องน้ำผู้บริหารเท่านั้น)

      าดแผล: ถ้าเจ้านายลดชั้นตำแหน่งคุณเพราะคุณมีภาระมากเกินไป คุณอาจไม่พอใจการเปลี่ยนแปลง แต่อย่างน้อยตอนนี้คุณก็อยู่ในตำแหน่งที่สามารถก้าวไปข้างหน้า ซึ่งดีกว่าการถูกทิ้งให้จมอยู่กับที่มากนัก การเปลี่ยนแปลงอาจเป็นผลดี ถ้าชีวิตส่วนตัวของคุณไปกันได้ด้วย คุณอาจรับภาระงานใหญ่เกินไปไม่ใช่หนักเกินไป คุณควรยินดีที่มีโอกาสจัดสมดุลระหว่างชีวิตงานและชีวิตส่วนตัว จนถึงขั้นมีเวลาดูละครหลังข่าว ยินดีด้วย!

      คำแนะนำ: การรู้ตัวว่าเมื่อไหร่ที่คุณรับภาระหนักเกินไปเป็นทักษะที่จำเป็น เมื่อคุณจะกลับสู่ตำแหน่งงานระดับสูงอีกครั้ง

เพื่อนร่วมงานตัวแสบ
      การกลั่นแกล้ง คุกคาม และนินทาว่าร้าย อาจเปลี่ยนสถานที่ทำงานให้มีบรรยากาศซึ่งเพาะเชื้อความไม่มั่นใจได้เร็วกว่าเชื้อไวรัสหวัดในห้องปรับอากาศเสียอีก แต่การสูญเสียตัวตน แม้เพียงบางส่วนก็อาจส่งผลร้ายทางอ้อมต่ออนาคตได้

      บาดแผล: คุณอาจเจอสถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมการทำงานและชีวิตของตัวเองได้ด้วยการมีเจ้านายร้ายกาจ แต่คนที่มีเหตุผลจะรู้ว่านี่ไม่ใช่สถานที่น่าอยู่อีกแล้ว ยังมีงานดีๆ อื่นรออยู่ คุมสติให้ดีแล้วเหตุการณ์นี้จะไม่กระทบต่ออาชีพการงานของคุณ ตอนแรกคุณอาจระแวดระวังกับสถานที่ใหม่ แต่ก็เป็นอยู่พักหนึ่งเท่านั้นจนกว่าคุณจะทำความรู้จักคนอื่น โดยดูจากคุณสมบัติในตัวพวกเขาไม่ใช่ตัดสินจากทัศนะของคุณ ส่วนเพื่อนร่วมงานตัวแสบนั้น พวกเขาจะมีอำนาจทำให้คุณรู้สึกแย่ได้ถ้าคุณยอมถูกลากเข้าไปในวังวนพฤติกรรมของพวกเขา ซึ่งคุณเลือกได้ไม่ให้เป็นแบบนั้น ถ้าคุณกลายเป็นเป้าให้พวกเขายิงมุข ก็ควรโต้กลับในแบบผู้ใหญ่ใช้เหตุผล แล้วพวกเขาก็จะล่าถอยไปเอง ถ้ามันชักจะเกินเลย คิดหาโอกาสที่คุณจะลาออกโดยที่ยังคงความสง่างามได้อยู่

      คำแนะนำ: การได้รู้จักเด็กไม่รู้จักโตที่ทำให้สติแตกในที่ทำงานสักครั้งหนึ่งก็ดีตรงที่คุณจะได้แยกแยะคนประเภทนี้ออกได้ในอนาคต

ทำงานผิดพลาด
      ไม่ว่าคุณจะกดเครื่องคิดเลขผิดและทำให้บริษัทสูญเงินมหาศาล หรือทำข้อมูลในคอมพิวเตอร์หายหมด หรือวิพากษ์วิจารณ์ไม่ทันคิดจนเจ้านายต้องเสียเงินหลายล้านฐานหมิ่นประมาท การทำงานผิดพลาดอาจทำให้คุณรู้สึกเหมือนรัสเซลล์ โครว์ตอนกำลังดินเนอร์กับครอบครัวของเม็ก ไรอัน

      บาดแผล: เมื่อคุณทำงานถึงระดับหนึ่ง จะมีแรงกดดันมากมายว่าคุณจะไม่มีวันทำงานผิดพลาด คุณควรรู้จักทำงานทุกขั้นตอน แต่เราทุกคนทำผิดพลาดได้ บ่อยครั้งถ้าคุณทำผิดพลาด เจ้านายจะไม่บ่นว่าเพราะกลัวจะเป็นการขายหน้าตัวเอง การจัดการสิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นคือเรื่องสำคัญ การยอมรับความพิดพลาดคือการตัดสินใจที่ดีที่สุด รักษาความมั่นใจและตั้งสติด้วยการซื่อสัตย์กับตัวเอง คุยกับเพื่อนร่วมงานเรื่องนี้ด้วย พวกเขาอาจมีประสบการณ์คล้ายกัน

      คำแนะนำ: การยอมรับว่าคุณจะทำผิดพลาดได้เป็นครั้งคราวก็เป็นบทเรียนที่เพียงพอ การโทษตัวเองตลอดเวลาดูจะมากเกินไป (และทำให้คุณแก่ก่อนวัยอันควร)

ถูกเมิน
      คุณอาจทำงานได้อย่างคล่องแคล่วขนาดปิดตาทำยังได้ คุณอาจอยากทำงานที่ท้าทายมากขึ้น แต่คุณกลับพลาดงานน่าสนใจและการเลื่อนตำแหน่งซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้าเจ้านายมองไม่เห็นศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในตัวคุณเลยอาจทำให้คุณรู้สึกเป็นที่ไม่ต้องการ

      บาดแผล: เราถูกสอนมาว่าถ้าเราฝึกฝนทำงานอย่างหนึ่ง เราจะได้ทำงานนั้นในที่สุด แต่คุณอาจไม่ได้ใช้ศักยภาพทั้งหมดที่มีและไม่ได้ทำงานที่ท้าทาย ถ้าคุณรู้ว่าคุณทำงานนี้ได้แต่กลับถูกส่งไปให้คนอื่นเสมอ คุณควรพูดคุยกับเจ้านายถึงเรื่องนี้ คุณควรเอาชนะความท้อแท้ด้วยการพูดกับเจ้านายอย่างเปิดเผย ส่วนที่คุณผิดพลาดการเลื่อนตำแหน่งนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาและไม่ใช่ประเด็นส่วนตัว ถ้าคุณเห็นว่าตัวเองมีคุณสมบัติพร้อมสำหรับตำแหน่งนั้น คนอื่นอาจถูกเลือกเพราะคุณสมบัติเล็กๆ บางอย่างที่เจ้านายสนใจในนาทีสุดท้ายก็เป็นได้ อีกอย่างถ้าทุกอย่างราบรื่นคุณได้เลื่อนตำแหน่งทุกครั้ง คุณคงเป็นคนนุ่มนิ่มปากเปียกเกินจริงเมื่อก้าวสู่ตำแหน่งงานระดับสูงก็ได้!

      คำแนะนำ: เอาชนะความรู้สึกว่าไม่ได้รับความยุติธรรมจากเจ้านาย ถ้าคุณไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้านายถึงไม่โปรโมทคุณ ก็ควรขอความเห็นเจ้านายที่ตัดสินใจแบบนั้น และนำมาเป็นบทเรียน พร้อมตั้งใจทำงานต่อไป!


Posted on วันพฤหัสบดี, 13 พฤษภาคม 2004 @ 16:58:11

ที่มาจาก  By potowww.2poto.com

 2555
ผู้เข้าชม
ทำเว็บธุรกิจ ทําเว็บขายของ ออกแบบเว็บไซต์ เว็บไซต์สำเร็จรูป SoGoodWeb

People Management

ไม่พบรายการที่คุณค้นหา
Get started for free today. DEMO FREE 60 DAYS
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์