คำถามที่ใช้วัดแรงจูงใจของผู้สมัครงาน

คำถามที่ใช้วัดแรงจูงใจของผู้สมัครงาน


จะถามคำถามอย่างไรให้รู้ว่าผู้สมัครงานมีแรงจูงใจในการทำงานมากแค่ไหน เพราะขณะสัมภาษณ์งานผู้สมัครทุกคนย่อมต้องแสดงออกถึงความกระตือรือร้นอยากได้งานทั้งนั้น ลองเจาะประเด็นตามคำแนะนำ ต่อไปนี้อาจช่วยคุณได้


1. ประวัติการทำงาน

          การพูดคุยถึงประวัติการทำงานที่ผ่านมาของผู้ สมัครงานสามารถใช้ประเมินแรงจูงใจของผู้สมัครได้ จากระยะเวลาที่เขาทำงานแต่ละบริษัท เขาอยู่แต่ละที่นานแค่ไหน เคยได้รับการเลื่อนตำแหน่งหรือไม่ เคยถูกซื้อตัวให้ย้ายงานหรือไม่ สาเหตุที่ย้ายงานเพื่อความก้าวหน้าหรือด้วยเหตุผลอื่น ๆ นายจ้างเก่าเคยรับพนักงานที่ออกไปแล้วกลับเข้าทำงานหรือไม่ เป็นต้น


2. ความสนใจที่นอกเหนือจากงาน

          คนที่มีแรงจูงใจจะไม่ได้มีแต่แรงจูงใจในการทำ งานเท่านั้น แต่รวมถึงแรงจูงใจในชีวิตด้วย จึงควรมีการพูดคุยถึงความสนใจอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากงาน ไม่ว่าจะเป็นงานอดิเรก การหาความรู้เพิ่มเติม เป้าหมายในชีวิต คนเหล่านี้มักมีความใฝ่ฝัน และหาโอกาสพัฒนาตนเองผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การอ่านหนังสือ การเรียนภาษา การวิ่งมาราธอน การร่วมกิจกรรมกับกลุ่มที่สนใจ เป็นต้น


3. ความล้มเหลวที่ผ่านมา

          แรงจูงใจช่วยให้เราโฟกัสในงานที่ทำ แม้ว่าอาจต้องพบกับอุปสรรคที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ผู้สัมภาษณ์งานจึงควรถามคำถามผู้สมัครงานเกี่ยวกับความผิดพลาดพี่ผ่านมา เพื่อค้นหาว่าเขารู้จักตนเองดี เพียงไร เช่น อุปสรรคที่ยากลำบากที่สุดที่เขาเคยเผชิญคืออะไร และเขาผ่านมันมาได้อย่างไร เขาเคยทำงานผิดพลาดหรือไม่ เขารู้สึกอย่างไร และแก้ปัญหานั้นอย่างไร


4. บุคคลอ้างอิง

          สอบถามบุคคลอ้างอิงที่ผู้สมัครงานให้ไว้ หากผู้สมัครเป็นที่ชื่นชม บุคคลอ้างอิงย่อมยินดีที่จะเล่าเกี่ยวกับผู้สมัครให้ฟังด้วยน้ำเสียงชื่นชม แต่ถ้าตอบเป็นพิธี แสดงว่ารู้สึกเฉย ๆ กับผู้สมัครงาน ไม่ Recommend แต่อย่างใด คุณอาจให้บุคคลอ้างอิงลองให้คะแนนผู้สมัคร 1-5 โดยผู้ที่ผ่านเกณฑ์จะต้องได้คะแนนตั้งแต่ 4 คะแนนขึ้นไป

การสร้างแรงจูงใจสามารถสร้างได้หลายวิธี ถ้าคุณสงสัยว่า เงินสามารถสร้างแรงจูงใรได้หรือไม่? ก็สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี้เลย


ที่มา : www.dotproperty.co.th

 2363
ผู้เข้าชม
ทำเว็บธุรกิจ ทําเว็บขายของ ออกแบบเว็บไซต์ เว็บไซต์สำเร็จรูป SoGoodWeb

HR Articles

เอสซีจี ให้ความสำคัญกับพนักงานเป็นอย่างมาก เนื่องจากตระหนักอยู่เสมอว่าพนักงานเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดขององค์กร โดยการพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารทรัพยากรบุคคลของบริษัทปูนซีเมนต์ไทย เริ่มตั้งแต่การสรรหาผู้ที่เป็นคนเก่งและดีเข้ามาร่วมงาน โดยจัดโครงการ “Drawing Your Career with SCG Career Camp” เพื่อจูงใจผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จากสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำของประเทศไทยให้มาทำงานกับบริษัท ซึ่งถือว่าเป็นการสรรหาบุคลากรในเชิงรุก นอกจากนี้ยังมีโครงการ “Top Ten University Recruitment” เพื่อสรรหาผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท ด้านบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยท็อป 10 ในสหรัฐอเมริกาหรือมหาวิทยาลัยชั้นนำในยุโรปอีกด้วย การพัฒนาบุคลากรของเอสซีจีจะดำเนินการโดยการให้ทุนการศึกษาและการอบรม โดยการอบรมนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ Business Knowledge และ Leadership Skills ซึ่งทางเอสซีจีได้จัดสรรงบประมาณสำหรับการฝึกอบรมคิดเป็นร้อยละ 0.19 ของรายได้ของบริษัทในปี 2550 สำหรับผู้ที่ผ่านหลักสูตรทั้งหมดแล้วและได้ขึ้นเป็นผู้บริหาร ทางเอสซีจีได้จัดหลักสูตรอบรมเพิ่มเติมได้แก่ Advance Management Program (AMP) และ Executive Development Program (EDP) โดยหลักสูตรแรกเอสซีจีร่วมมือกับ ฮาวาร์ด บิสสิเนสท สคูล และวาร์ตัน บิสสิเนส สคูล ส่วนหลักสูตร EDP ร่วมมือกับ โคลัมเบีย บิสสิเนส สคูล ซึ่งค่าใช้จ่ายสำหรับฝึกอบรมผู้บริหารนี้จะแยกอิสระออกจากงบพัฒนาบุคคลหลัก
26990 ผู้เข้าชม
นื่องจากความเชื่อข้างต้น ก็เลยทำให้ธุรกิจส่วนใหญ่ใช้เงิน เป็นเครื่องมือในการสร้างแรงจูงใจ โดยเริ่มต้นจากเรื่องของเงินเดือนเป็นอันดับแรก ให้เงินเดือนเพราะต้องการให้พนักสร้างผลงานให้กับองค์กร จากนั้นก็ต่อด้วยเรื่องของการให้คอมมิชชั่นสำหรับพนักงานขาย ใครที่ขายได้มาก ก็ยิ่งได้เงินมากขึ้น ระยะหลังๆ มานี้ก็เริ่มมีสิ่งที่เรียกกว่า pay for performance เกิดขึ้น โดยเอาผลงานของพนักงานมาเป็นพื้นฐานและผูกด้วยระบบการจ่ายค่าจ้างที่เป็นไปตามผลงาน ใครทำงานได้ดี ก็ได้รับเงินรางวัลที่สูงกว่าคนที่ทำผลงานได้ไม่ดีพอ โดยบางแห่งก็กำหนดเป็นเรื่องของโบนัสตามผลงาน คำถามก็คือ เงินรางวัลที่กล่าวมาข้างต้นนั้น เราสามารถใช้ในการสร้างแรงจูงใจให้พนักงานในระยะยาวได้จริงๆ หรือ
1172 ผู้เข้าชม
หัวหน้างานมักกังวัลเกี่ยวกับแรงจูงใจในการทำงานของลูกน้องว่าจะทำอย่างไรให้พวกเขาทำงานกันได้อย่างเต็มที่ ในขณะเดียวกันหัวหน้างานก็มักจะไม่ค่อยรู้วิธีสร้างแรงจูงใจในการทำงานให้กับพนักงานเลย
2966 ผู้เข้าชม
ตัวอย่างการเขียนเรซูเม่งานโปรแกรมเมอร์ สมประสงค์ พงพันอาภา 45/54ถนน ลาดพร้าว แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. 10900 โทร 02-512-1212, 085-522-5555 surapongsa@hotmail.com จุดมุ่งหมายทางอาชีพ • สามารถนำวิชาความรู้ด้านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ มาใช้ในการออกแบบพัฒนาเว็บไซต์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้เว็บไซต์มากที่สุด การศึกษา • พ.ศ. 2545 - 2548 • ปริญญาตรี วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัย............... • เกรดเฉลี่ย 3.50 ประสบการณ์ • พ.ศ. 2551- ปัจจุบัน รับงานอิสระ ออกแบบเว็บไซต์ เขียนโปรแกรมและพัฒนาเว็บไซต์ พ.ศ. 2548-2552 โปรแกรมเมอร์ บริษัท.................... เขียน Web application โดยใช้ภาษา php หรือ asp.net กิจกรรม • พ.ศ. 2545 – 2548 สมาชิกชมรมคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ของมหาวิทยาลัย ความสามารถด้านภาษา • สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดี • คะแนน TOEIC 560 ความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ • มีความรู้เกี่ยวกับ Database MSSQL,MySQL • มีทักษะในการใช้ภาษา PHP หรือ ASP.NET (VB, C#) เป็นอย่างดี • มีความรู้และเข้าใจใน HTML, XML, JAVA Script, CSS ความพร้อมในการเริ่มงาน • เริ่มงานได้ทันที
21793 ผู้เข้าชม
Get started for free today. DEMO FREE 60 DAYS
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์